บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ผีเห็นเราได้อย่างไร




ผมไปเจอกระทู้ที่น่าสนใจ และพิจารณาแล้วว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็น่าจะสงสัยในประเด็นนี้ จึงนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน พอให้เป็นที่ประเทืองปัญญา


เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

หลังจากอ่าน เรื่องลึกลับ โดยเฉพาะเรื่องผีมาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะพบว่า ผี หรือ วิญญาณ ตอบโต้ ผู้พบเห็นประสบการณ์นั้นได้

ไม่ว่าจะสบตา (ใช้ตา) แล้วส่งเสียงร้อง (ใช้ปากลิ้น) บีบคอ (ใช้กายสัมผัส) รวมถึงส่งกลิ่นเน่าเหม็นหรือหอม (กลิ่นคงออกจากกาย)

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ผี หรือ วิญญาณ ไม่มีร่างกายแล้ว ไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น หรือ กาย ไว้รับสัมผัสต่างๆ

ถ้าผีหรือวิญญาณมีจริง ก็ไม่มีอวัยวะที่จะรับสัมผัสใดๆ ได้

ยิ่งมาได้ศึกษาเรื่อง ขันธ์ ๕ ก็ยิ่งพบว่า ตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส เป็น ส่วนประกอบสำคัญที่จะสร้าง สังขาร สัญญา วิญญาณ ฯ (อ่านเพิ่ม พุทธธรรม)

สรุป ผี วิญญาณ ไม่มีรูป ไม่น่าจะติดต่อสื่อสารใดๆ ได้ ดังนั้น เมื่อไม่มีรูป ก็ไม่น่าจะติดต่อกับคนในโลกนี้ได้จริง เพราะไม่สามารถสื่อสารได้ (แต่ไม่ได้หมายความว่า ผี หรือ วิญญาณไม่มีจริง)

เนื้อหาของกระทู้นี้ แสดงถึงความไม่รู้มากมาย แต่คนไม่รู้จึงมาถาม ก็ไม่ว่ากันเอาไว้วิพากษ์วิจารณ์กันในตอนท้าย  แต่ตอนนี้เรามาวิพากษ์วิจารณ์พวก “เสือกรู้” กันก่อน  คือ พวกที่เข้าไปให้ความคิดเห็นทั้งหลาย

ความคิดเห็นที่ 3

ถ้าผีมีจริง ก็ต้องมี ผีหมา ผีแมว ผีนก ผีกา ผีไก่ ผีหมู ผีวัว ผียุง ผีแมลงสาป ผีมดดำ ผีมดแดง ฯลฯ

ตอนดึกๆ ได้ฤกษ์จังหวะผีออก คงวุ่นวายพิลึกครับ ห้ามคิดว่าถ้าผีมีจริงต้องเป็นมนุษย์เท่านั้น

มนุษย์ก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตเหมือนๆ กับสิ่งอื่น เพียงแต่มีจินตนาการณ์มากกว่าหมาและแมวเท่านั้นเอง

ผมไม่เคยเห็นหมาหรือแมว กลัวผีเลยครับ

คนถามเขาถามคนที่เชื่อเรื่องผี ไอ้คนนี้ ไม่เชื่อเรื่องผี ก็เสือกเขามาตอบกับเขาแบบสมองหมา ปัญญาควาย..

ดูที่เน้นสีแดงก่อน  “ผมไม่เคยเห็นหมาหรือแมว กลัวผีเลยครับ”  มันไปรู้ได้ยังไงว่า หมา แมวไม่กลัวผี  เสือกรู้ไปทุกเรื่อง

สำหรับเรื่อง “ผีหมา ผีแมว ผีนก ผีกา ผีไก่ ผีหมู ผีวัว ผียุง ผีแมลงสาป ผีมดดำ ผีมดแดง” โดยปกติไม่มีนะครับ  เพราะ กายละเอียดของสัตว์เหล่านั้นเป็นคนทั้งหมด แต่กายจะออกไปทางดำ

การเกิดเป็นสัตว์ก็เพราะชดใช้กรรมอยู่  กายเนื้อเท่านั้นเป็นสัตว์ ดังนั้น เมื่อตายจากภพสัตว์ไปแล้ว ก็จะเหลือกายละเอียดที่เป็นคน

ความคิดเห็นที่ 11

ครั้งหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานะออกบิณฑบาตกับเพื่อนภิกษุ เดินผ่านเขาลูกหนึ่งแล้วก็ยิ้ม  เพื่อนภิกษุถามว่ายินเนื่องด้วยเหตุอะไร

พระมหาโมคคัลลานะตอบว่า ไว้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วจะบอก

เมื่อรับบิณฑบาตเสร็จ ก็ไปเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยกัน  เพื่อนภิกษุก็ทวงถามคำตอบ
พระมหาโมคคัลลานะจึงตอบว่า เห็นเปรต

พระพุทธเจ้าก็ตรัสซ้ำว่า เห็นเหมือนกับพระองค์เมื่อครั้งก่อน  แต่พระพุทธเจ้าไม่มีพยาน ครั้งนี้พระมหาโมคคัลลานะเป็นพยานในการรู้เห็นนี้

ความคิดเห็นนี้ ยกเอาพระสูตรมาแสดงเสียด้วย แต่ก็เป็นการแสดงแบบสมองหมา ปัญญาควายเหมือนเดิม  กล่าวคือ  กระทู้เขาถามว่า “ทำไมผีเห็นเรา”  ไม่ใช่หาหลักฐานว่า “ผีมีจริงหรือไม่

ความคิดเห็นที่ 9

พวกผีหรือบ้างเรียก วิญญาณ ที่จริงก็อยู่ในภพภูมิเปรต ซึ่งเปรตก็มีหลายประเภท

พวกที่เกิดเป็นเปรตพวกนี้ มีอวัยวะทุกอย่างเช่นเดียวกันมนุษย์ ที่สามารถรับผัสสะ เวทนาทั้งสุขและทุกข์ คือมีความหิว มีความทุกข์ต่างๆ

ส่วนใหญ่จะรับทุกข์เวทนามากกว่าถ้าอยู่ในภูมินรก ที่เป็นอีกภพภูมินึงที่มีแต่ความทรมาน สภาพกายก็ต้องมีความแตกต่างกันไปตามแต่ล๊ะภพภูมิ  แต่มีกายไว้รับความทุกข์แน่ๆครับ...

ถ้าเป็นพวกเทวดา ก็มีร่างกายเหมือนกัน เพียงแต่เป็นกายละเอียด มีอาหารทิพย์มีการสัมผัสที่ละเอียด  แต่ละภพภูมินั้นมีกายไม่เหมือนกัน มีความละเอียดหรือหยาบไปตามแต่ละภพภูมิ...

ความคิดเห็นนี้เข้าท่าเข้าทางขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังเข้าใจผิดที่ว่า “พวกผีหรือบ้างเรียก วิญญาณ ที่จริงก็อยู่ในภพภูมิเปรต” 

ผีก็ผี เปรตก็เปรตครับ 

ผีนี่ส่วนใหญ่หมายถึง กายละเอียดของคนที่ตายไปแล้ว โดยเหตุผลใดก็ไม่ทราบ ยังไม่ไปสวรรค์ ยังไม่ไปนรก   ส่วนเปรตนั้น ถือว่าเกิดไปใช้กรรมแล้ว

รูปร่างของเปรตก็เปลี่ยนไปตามกรรมของเขาแล้ว  ส่วนผีนี่ ส่วนใหญ่ยังจะที่รูปร่างเหมือนคนอยู่

ในทางวิชาธรรมกายอธิบายเรื่องนี้ได้ง่ายมาก และถูกต้องตรงเผงเสียด้วย....

ไม่ว่ามนุษย์ ผี เปรต เทวดา รูปพรหม อรูปพรหม รวมถึงพระอรหันต์ในอายตนะนิพพานต่างก็มีขันธ์ 5  ทั้งสิ้น  คือ มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณด้วยกันทั้งสิ้น

พระอรหันต์นั้น เราจะไม่เรียกว่า “ขันธ์ 5” แต่จะเรียก “ธรรมขันธ์

มีความเข้าใจผิดกันว่า “อรูปพรหม” มีไม่ถึงขันธ์ 5  เพราะ พวกนี้ไม่เคยเห็น อ่านหนังสือแล้วก็ตีความกันไป 

ในเมื่อผีมีขันธ์ 5 เขาก็เห็นมนุษย์ได้  คำตอบก็มีเพียงสั้นๆ อย่างนี้  

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น