จับและเผาผีปอบ 600 กว่าตน
ในช่วงนี้ ข่าวการล่าผีปอบออกมาให้เป็นข่าวอีกแล้ว มีหัวข้อข่าว “สุดผวาทั้งหมู่บ้านสกลนคร ผู้หญิงทยอยตายนับสิบราย อ้างปอบอาละวาด!!” ของหนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10:18 น. ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นแล้ว ก็มีการนำข่าวดังกล่าวไปลงใน youtube
ด้วย
ดังที่ผมได้เสนอไปข้างบนแล้ว
ก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กัน ข้อสรุปข่าวสั้นๆ กันก่อน ดังนี้
เมื่อเวลา
07.00 น. วันที่ 14 ต.ค.
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายคำนึง วิสุกัน อายุ 56 ปี
ผู้ใหญ่บ้านชัยมงคล หมู่ที่ 4 ต.นิคมน้ำอูน
อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร
ว่าที่หมู่บ้านดังกล่าวมีชาวบ้านถูกผีปอบหักคอ
กินเลือดสดๆ ตั้งแต่ต้นเดือนคุลาคม 2557 ตายแล้วกว่า 10 ชาวบ้านต่างผวา ไม่กล้าออกเดินเพ่นพ่านในยามกลางคืน
กลัวคนในหมู่บ้านคิดว่าเป็นปอบคอย จับคนหักคอกินตับไต
และขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักจึงต้องลงขัน
ไปติดต่อพระที่มีอาคมเวทย์มาปราบ ชึ่งจะมีการทำพิธีปราบหรือจับผีปอบในเช้าวันนี้
โดยอาจารย์ขมังเวทย์
ด้านคุณไสยเดินทางจากจังหวัดนครราชสีมามาทำพิธี
|
เรื่องปอบเข้าสิงนี้
แม้กระทั่งนายก อบต. เองก็ไม่ได้รับการยกเว้น โดยภรรยาของนายก อบต.
ก็โดยผีปอบเข้าสิงด้วย
นายก
อบต.นิคมน้ำอูน ให้ข้อมูล โดยอ้างด้วยว่า หลังจากได้ตกลงเรียกประชุมชาวบ้าน
แต่รุ่งเช้าเมื่อตนกลับจากไปธุระที่อำเภอกลับมาถึงบ้าน
พบนางพนิดา
ฮุงหวล อายุ 42 ปี ภรรยา ที่มีสุขภาพแข็งแรง นั่งซึมเศร้าอยู่
ในลักษณะนั่งชันเข่า เอามือเท้าคาง เห็นผิดสังเกต จะเข้าไปถาม แต่พบว่านางพนิดาภรรยา
มีอาการตาขวางใส่ตน คล้ายผีสิง
ตนตกใจมาก
ไปเรียกเพื่อนบ้านมาดู และมีคนไปถามหมอธรรมประจำหมู่บ้านว่า นางพนิดา
ภรรยาตนถูกผีปอบเข้าสิงจะหักคออีกคน
ตนจึงได้รีบนำตัวนางพนิดา
ขึ้นรถยนต์ไปที่วัด เพื่อให้พระทำพิธีไล่ผีปอบออกจากร่างก่อนที่จะถูกหักคอ
เมื่อเดินทางไปถึงระหว่างทางนางพนิดา
ก็ล้มลงนอนและชักจนปัสสาวะแตกราดรถ และพอฟื้นมาถามว่าเป็นอะไร
ก็เหมือนคนไม่เป็นอะไร
จากนั้น
เมื่อไปถึง พระจึงทำพิธี พระบอกว่า ผีปอบออกไปแล้ว ก่อนที่จะมาถึง
และบอกว่าปอบจะหักคอกกินเมียนายก อบต.แต่กินไม่ได้ เพราะมีการนำตัวไปหาพระก่อน
จากนั้นพระได้นำสายสิญจน์มาผูกข้อมือข้อเท้า
ป้องกันไม่ให้ผีปอบมาเข้าอีก
|
เรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวที่ไปทำข่าวรายงานข่าวออกมา ดังนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พระทำพิธีเพื่อหาคนไปปราบผีปอบ
โดยจะมีการหาอาสาสมัครชาย มานั่งเสกคาถาอาคมให้คุณพระเข้าสิง
จากนั้น
จะพากลุ่มคนวิ่งไปตามหมู่บ้านเพื่อปราบผีปอบดังกล่าว ระหว่างทำพิธี ยายนาง อายุ 60 ปี มีอาการชักกระตุกร้องโวยวาย คล้ายผีเข้าสิง
และอีกกว่า 3 คน มีอาการร้องโวยวายคล้ายผีเข้าสิง
พระอาจารย์จึงเข้าเป่าน้ำมนต์และทำพิธีไล่ออกไป
พร้อมบอกว่าผีปอบรายนี้มันแข็งจริง มีถึง 9 ตัว
และจะไล่ออกไปให้หมดไม่ต้องกลัว
พระอาจารย์คนดังกล่าวแจ้งกับชาวบ้านที่มาดูการทำพิธีไล่ผีปอบนับร้อยคน
|
ผมขอสรุปเหตุการณ์ที่มาจากข่าวนี้กันก่อน
ดังนี้
1- มีคนตายในหมู่บ้านจริง
ประมาณ 10 คน
และแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะไปแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว
เรื่องนี้
ถ้าเป็นต่างประเทศ ทางแพทย์แผนปัจจุบันอาจจะคิดว่า “เป็นโรคติดต่อ”
อะไรบ้างอย่าง คงจะส่งคนลงไปดู
แต่ในเมืองไทยนั้น
แค่รักษาคนที่มาที่โรงพยาบาลก็คงไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว
2-
คนในหมู่บ้านคิดว่า “มีปอบจริง” เพราะ
การทำพิธีขับไล่ดังที่เป็นข่าวออกมานั้น ไม่ใช่ทำการเล่นๆ ฟรีๆ
จากที่เป็นข่าวผมว่าอย่างน้อย
ชาวบ้านก็ต้องใช้เงินในระดับ 3-4 หมื่นบาท
ไม่รวมถึง “เงินฌาปนกิจศพหมู่บ้าน”
ที่ต้องจ่ายให้กับครอบครัวผู้ตายด้วย
3- เรื่องนี้
มีการทำข่าวจากผู้สื่อข่าวด้วย ดังนั้น
มันไม่ใช่เรื่องเล่า (Myth) ที่หาหลักฐานไม่ได้ หลักฐานได้ปรากฏตามสื่อต่างไปแล้ว
เมื่อสรุปเหตุการณ์ได้แล้ว
จึงมาสู่ประเด็นสำคัญคือ
1- ผีปอบมีจริงหรือไม่
2-
ผีปอบสามารถไปสิงคนได้หรือไม่
3-
ผีปอบมีมากมายขนาดเป็นข่าวจริงหรือ และ
4-
การปราบปอบของพระดังกล่าว ปราบปอบได้จริงหรือไม่
|
1-
ผีปอบมีจริงหรือไม่
|
ผมเองไม่เคยมีประสบการณ์กับผีปอบมาก่อน
เนื่องจากแถวๆ บ้านผมไม่เคยมีเหตุการณ์ประเภทนี้ แต่ผมเคยเห็นคนถูกผีเข้านานๆ น่าจะเข้าข่ายผีปอบนี้
เมื่อผีจะออกจากร่างกายก็ต้องทำพิธีต่อไส้ให้ก่อน
เพราะ ผีที่เข้าสิงมันหิว กินไส้ไปบางส่วนแล้ว ดังนั้น ผีปอบน่าจะมีจริง
หลักฐานอีกประการหนึ่งก็คือ
“ผี” นั้นมีจริงๆ ผีปอบก็เป็นผีชนิดหนึ่ง ก็ควรจะมีจริงๆ ไปด้วย
2-
ผีปอบสามารถไปสิงคนได้หรือไม่
|
เรื่องนี้
ในทางวิชาธรรมกายขอยืนยันว่า “ทำได้” ในพระไตรปิฎกก็มีการบันทึกเหตุการณ์ทำนองนี้ไว้
พระไตรปิฎก
เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่
๕มหาวรรค ภาค ๒
พระพุทธานุญาตเนื้อดิบและเลือดสด
[๓๖]
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเพราะผีเข้า พระอาจารย์
พระอุปัชฌายะช่วยกันรักษาเธอ ก็ไม่สามารถแก้ไขให้หายโรคได้
เธอเดินไปที่เขียงแล่หมู
แล้วเคี้ยวกินเนื้อดิบ ดื่มกินเลือดสด อาพาธเพราะผีเข้าของเธอนั้น
หายดังปลิดทิ้ง
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตเนื้อดิบ เลือดสด ในเพราะอาพาธเกิดแต่ผีเข้า.
|
นี่เป็นพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ
จึงต้องเป็นเรื่องจริง
หลักการสิงคนนั้น
ขออธิบายสั้นๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะ ผมได้อธิบายไปหลายครั้งแล้วในบทความของผม
สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนก็คือ
“ใจ”
ใจนั้นประกอบด้วย “เห็น-จำ-คิด-รู้” “เห็น-จำ-คิด-รู้”
นี้ละเอียดกว่าขันธ์ 4 คือ เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ
พูดง่ายๆ ว่า “เห็น-จำ-คิด-รู้” เป็นตัวไปเกิดมาเกิด ขอย้ำว่า
ยังตกอยู่ในอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา ไม่ใช่เป็นอัตตาแบบพราหมณ์
ขันธ์ 4 คือ
เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ รวมถึงกายด้วยนั้น เรามาได้จากพ่อแม่ของเราในชาตินี้
“เห็น-จำ-คิด-รู้” มีลักษณะเป็นดวงกลมใส ผีนั้นจะเข้าไปตามฐานของใจ คือ 1-ปากช่องจมูก
หญิงซ้ายชายขวา 2-เพลาตา หญิงซ้ายชายขวา 3- จอมประสาท กลางกะโหลกศีรษะ
แล้วก็ไปฐานที่ 7 เหนือระดับสะดือ 2 นิ้วมือ
เมื่อผีเอาใจของผี
ไปซ้อน “ใจ” หรือ “เห็น-จำ-คิด-รู้”
ของคนได้ คนก็จะทำตามใจของผีทุกประการ
3-
ผีปอบมีมากมายขนาดเป็นข่าวจริงหรือ
|
อันนี้ไม่แน่ใจ
เพราะ เนื้อหาข่าวตอนสัมภาษณ์พระบอกว่า มี 9 ตน แต่พอจับจริงๆ ได้ตั้ง 600 ตน
คงจะมีการจับมั่วไปบ้าง
สงสัยว่า
คงจับโดย “แพะผี” เข้า เลียนแบบตำรวจไทย ที่ชอบจับ “แพะคน”
4-
การปราบปอบของพระดังกล่าว ปราบปอบได้จริงหรือไม่
|
อันนี้ผมยืนยันเลยว่า
“ไม่ได้ผล” เพราะ ผีปอบนั้น เป็นสาวกของมาร ไสยศาสตร์ก็เป็นวิชาของมาร
เมื่อมารกับมารเจอกัน มันจึงทำอะไรกันไม่ได้
ผีปอบอาจจะหายไปพักหนึ่ง
เดี๋ยวก็มาอีก
การปราบปอบดังกล่าวนั้น ถ้าคนในหมู่บ้านฝึกวิชาธรรมกาย หรือให้เด็กๆ
ในหมู่บ้าน หรือเด็กในโรงเรียนฝึกวิชาธรรมกาย
รับรองผีปอบจะสูญพันธุ์ไปจากหมู่บ้านนั้นอย่างแน่นอน
แต่อาจจะไปหากินในหมู่บ้านอื่นๆ
ได้
ที่ใดมีการฝึกวิชาธรรมกาย พวกที่เห็นกายธรรมจะมีความสว่างในตัวมาก
ความสว่างนั้น ทำให้ฝีปอบอยู่แถวนั้นไม่ได้
ต้องไปอยู่ที่อื่น
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น