บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ผีต่อไส้คนด้วยไส้ไก่


เรื่องผีเข้าคนนั้น  กลุ่มบุคคลที่งมงายในวิทยาศาสตร์จะปฏิเสธกันแบบหัวชนฝาว่า เป็นไปไม่ได้  คนกลุ่มนี้ ไม่เชื่อว่า “ผี” มีในโลก  เมื่อผีไม่มีในโลกแล้ว ผีจะไปสิงคนได้อย่างไร

เมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรื่องผีสิงคน  คนจำพวกนี้ ก็จะตราหน้าว่า เป็นเรื่องของพวกที่งมงาย ขาดการศึกษา ฯลฯ ว่ากันไปต่างๆ นานา

กลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้ ไม่ได้หันกลับมามองดูตัวเองเลยว่า พวกเขาเองก็งมงายเหมือนกัน แต่เป็นการงมงายในวิทยาศาสตร์   

พวกนี้คิดว่า วิทยาศาสตร์เป็นความจริงแต่เพียงอย่างเดียว

ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่อย่างนั้น วิทยาศาสตร์ไม่เคยศึกษาเรื่องผี  ไม่มีวิชา ผี 101 หรือวิชาผีเบื้องต้น  ในเมื่อวิทยาศาสตร์ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผีเลย  ก็ไม่ควรจะเอาวิทยาศาสตร์มาจับผิดเรื่องผี

ความเข้าใจผิดอีกอย่างของพวกงมงายในวิทยาศาสตร์ก็คือ คิดว่าวิทยาศาสตร์ค้นพบความจริงแล้ว  ก็เลยเอามาตรฐานของวิทยาศาสตร์ไปตัดสินเรื่องอื่นๆ ว่า จริงหรือไม่จริง

ประเด็นนี้ก็เช่นเดียวกัน ความรู้ของวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่เข้าใกล้ความจริงแท้เลยแม้แต่น้อย  การเอาวิทยาศาสตร์ไปตัดสินเรื่องอื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ

จากประสบการณ์ของผม ผมยืนยันว่า เรื่องผีสิงคน ผีเข้าคนเป็นความจริง  ในทางวิชาธรรมกายก็สามารถอธิบายได้

การที่ผีสามารถเข้าคนได้ สามารถสิงคนได้ และผีก็มีมากมายหลายประเภท ตั้งแต่ผีกระจอกงอกง่อย จนกระทั่งผีที่มีฤทธิ์เดชต่างๆ  จึงทำให้มีคนจำพวกหนึ่ง สามารถเอาผีมาหากินได้ 

คนพวกนี้คือ พวกทรงเจ้าเข้าผี 

การทรงเจ้าเข้าผีนั้น ขอย้ำว่าเป็นเรื่องจริง สามารถทำได้ แต่เมื่อเป็นอาชีพอย่างหนึ่งแล้ว  ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ในบางครั้งบางคราว ผีหรือเจ้าไม่มาเข้าทรง หรือผีไม่มาตามนัด อาจจะด้วยเหตุว่า ไปรับงานอื่นไว้ หรือไม่รู้เรื่องตอนถูกเชิญให้เข้าทรง  

เจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลาย ก็ต้องแสดงการแหกตาลูกค้าว่า เจ้าเข้าทรงแล้ว  ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ลูกค้าก็คงจะขาดศรัทธา  แล้วใครจะมาเชื่อถือ ซึ่งจะทำให้หมดทางทำมาหากินในภายหลัง

การทรงเจ้าเข้าผี จึงมีการหลอกลวงขึ้นได้  ไม่ใช่ว่า เป็นจริงไปทั้งหมด 

ด้วยสภาวะการทำมาหากินที่ฝืดเคืองในปัจจุบัน  พวกทรงเจ้าเข้าผีทั้งหลายในยุคนี้ จึงเป็นเรื่องหลอกลวงประชาชนเสียเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดี ขอยืนยันด้วยวิชาธรรมกายว่า “สิ่ง” ที่มาเข้าทรงนั้น หรือมาสิงในร่างกายของพวกทรงเจ้านั้น  ไม่ใช่ธรรมภาคขาว เป็นธรรมภาคมารหรือสาวกของมารทั้งสิ้น

นอกจากนั้นแล้ว เจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายที่หากินกับผี หรือเอาผีมาเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน และที่ยินยอมให้ใจ/จิต/วิญญาณของพวกผีมาเข้าสิงบ่อยๆ  เมื่อตายไป ไปอบายภูมิแน่นอน

เรื่อง “ผีต่อไส้คนด้วยไส้ไก่” นี้  เป็นเรื่องผีสิงคน เป็นเรื่องการไล่ผี ที่ผมมีประสบการณ์ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก 

ที่ว่าเป็นประสบการณ์ด้วยตัวเองนั้น ไม่ได้หมายถึงว่า ผีเข้ามาสิงผม แต่ผมเห็นเหตุการณ์นั้นโดยตลอด ตั้งแต่ต้นจนจบ   ตอนนั้น ผมเรียนอยู่ประมาณชั้น ป. 5

ญาติของเพื่อนของผม จะแต่งงานที่แถวๆ บ้านท่าโบสถ์ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท แม่ของเพื่อนก็เหมารถสองแถวไป  มีคนไปเยอะมาก ผมก็ขอติดรถเขาไปด้วย

ในตลาดบรมธาตุมีเจ้าพ่ออยู่คนหนึ่งชื่อ “เจ้าพ่อพะยอม” เจ้าพ่อพะยอมไม่ใช่เจ้าพ่อในทางนักเลงแบบกำนันเป๊าะ (ชลบุรี) หรือกำนันช้อย (เพชรบุรี) ฯลฯ แต่ท่านมีอาชีพในทางทรงเจ้าเข้าผี ทำนายทายทัก สะเดาะเคราะห์ แก้เสน่ห์ยาแฝด ฯลฯ ทำนองนั้น

ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดของเจ้าพ่อพะยอมนัก เพราะเป็นเด็ก และไม่เคยใช้บริการของเจ้าพ่อพะยอมเลย มีแต่เจ้าพ่อพะยอมมาใช้บริการของผม

แม่ผมขายผักในตลาด ผมก็ช่วยแม่ค้าขาย เจ้าพ่อพะยอมมาซื้อของกับผมเป็นประจำ

ส่วนใหญ่ท่านก็ให้ลูกหลานมาเป็นคนซื้อ  อย่างไรก็ดี  สามารถนับได้ว่าทางครอบครัวของเจ้าพ่อพะยอมก็สนิทสนมกับพวกผมเป็นอย่างดี

ที่เรียกว่า “เจ้าพ่อพะยอม” นั้น  ท่านเป็นผู้หญิง แต่แต่งตัวเป็นผู้ชาย ท่านว่า ท่านเป็นศิษย์ของศาลพระกาฬ จังหวัดลพบุรี

งานนี้ เจ้าพ่อพะยอมซึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้านผม ก็ได้รับเชิญไปด้วย

ทางเราเป็นญาติเจ้าบ่าว ก็ไปพักที่บ้านเจ้าบ่าว  สำหรับบ้านเจ้าสาวนั้นก็อยู่ไม่ห่างกัน  เมื่อไปถึงก็มีการต้อนรับขับสู้กันอย่างดี  ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ

ต่อมา เหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น  คือ แม่ของเจ้าบ่าวซึ่งเมื่อสักครู่ยังต้อนรับขับสู้อย่างดี ลุกขึ้นมาด่า และขับไล่เจ้าพ่อพะยอมอย่างสาดเสียเทเสีย

ทำนองว่า ไม่ยินดีต้อนรับ และขับไล่ให้เจ้าพ่อพะยอมออกไปจากบ้าน

ผมนั่งอยู่แถวนั้น ยังงงๆ อยู่ว่า  แม่เจ้าบ่าวลุกขึ้นมาด่าเจ้าพ่อพะยอมทำไม เมื่อกี้ก็ยังคุยกันดีๆ

เจ้าพ่อพะยอมหันไปพูดกับคนที่มาช่วยงาน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นไทยมุงกันไปหมดแล้วว่า “ผีเข้ามัน” แล้วแกก็เดินไปจับผมของแม่เจ้าบ่าว แล้วเอายางวงสำหรับมัดของมัดไว้ พร้อมกับท่องคาถาไปด้วย

เท่านั้นเอง แม่เจ้าบ่าวแกก็บ่นว่า “มึงมามัดกูทำไหม กูไปไหนไม่ได้”  แล้วแกก็นั่งคลำทางไปๆ มาๆ อยู่แถวนั้น พร้อมกับบ่นไปด้วย

ต่อมา เจ้าพ่อพะยอมก็สั่งให้ไปเตรียมของสำหรับไล่ผี  มีอะไรมั่งก็จำไม่ค่อยได้แล้ว  เท่าที่จำได้ก็มีถังน้ำ  น้ำ  แล้วก็ต้นข่าหรือไงนี่แหละ

ต่อไป ก็คือ พิธีกรรมไล่ผี  เจ้าพ่อพะยอมก็เอาต้นข่าตีคนผีเข้าไปด้วยสัมภาษณ์ไปด้วย  การตีนั้น ไม่ได้ตีแรงเหมือนกับเรื่องเล่าอื่นๆ  แต่ผีในร่างคนก็ร้องจะเป็นจะตายไปเหมือนกัน

ผลของการสัมภาษณ์ก็คือ  ผีที่มาเข้าก็เป็นแม่ของคนถูกเข้า เป็นยายของเจ้าบ่าวนั่นแหละ เมื่อตายไปแล้ว ไม่มีใครทำบุญให้ จึงเข้ามาสิงในร่างของลูกสาว

เมื่อผ่านการสัมภาษณ์ แถมการตีด้วยต้นข่าไปแล้ว  ก็มีการตกลงปรองดองกับผีกัน

เนื่องจากเป็นเรื่องภายในวงศาคณาญาติกันเอง  ทางบรรดาลูกหลานก็ตกลงจะสร้างศาลให้ผีอยู่ และจะเอาข้าวปลาอาหารไปให้ทุกวัน 

ก่อนที่ผีจะออกไปนั้น ผีผู้เป็นแม่ ก็คงจะห่วงลูกเหมือนกัน แกบอกเจ้าพ่อพะยอมว่า กินไส้ของลูกไปบ้างแล้ว ต้องต่อไส้ก่อน  ไม่งั้นตอนแกออกไป ลูกจะตายไปด้วย

เจ้าพ่อพะยอมก็สั่งให้ไปหาไก่รุ่นกระทงมา 1 ตัว  บรรดาไทยมุงทั้งหลายก็รีบลงจากบ้าน ไปจับไก่วุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ก็อุ้มไก่ชะตาขาดมาให้ 1 ตัว

ผีก็จับไก่ แล้วเอาปากดูดที่ตูดไก่  เป็นการต่อไส้ที่แปลกประหลาดดีเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่า เรื่องผีเข้าคนมันก็แปลกประหลาดอยู่แล้ว 

ปรากฏว่า การต่อไส้ครั้งที่หนึ่งไม่สำเร็จ  ผีบอกว่า “มีเงินอยู่ในกระเป๋า ต้องเอาออกไปก่อน” 

ปรากฏว่า เงินดังกล่าวเป็นแบงก์ ไม่รู้ว่ารูปครุฑ หรือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวขัดกับหลักการต่อไส้ของผี

เมื่อเอาเงินออกไปแล้ว  ผีก็เอาปากดูดที่ตูดไก่อีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายเลย ก็กัดจนขาด แล้วก็ขว้างไก่ไปที่นอกชาน ผมยืนอยู่ตรงนั้นพอดี

ไก่ชะตาขาดนั้น ไส้ทะลักออกมา ดิ้นพราดๆ ไปสักพักก็ขาดใจตาย  ส่วนตูดไก่ และไส้ไก่จำนวนหนึ่ง ก็อยู่ที่ปากของคนผีเข้า

เมื่อพิธีต่อไส้เสร็จแล้ว ก็จะทำพิธีรดน้ำมนต์เพื่อให้ผีออก  ตอนนั้น ผมยืนขวางประตูอยู่พอดี เจ้าพ่อพะยอมบอกผมว่า “ไอ้หนูถอยออกจากประตู เดี๋ยวผีจะออกไป ถ้าไม่ถอยผีจะไปเข้าหนูแทน

ผมก็ใส่เกียร์ถอยเต็มที่.. พร้อมกับนึกในใจว่า “ผีมันก็ต้องออกทางประตูเหมือนคน”  ทำไมไม่เหาะไปเลย หรือออกไปทางไหนก็ได้

เมื่อไล่ผีออกไปแล้ว  แม่ของเจ้าบ่าวก็รู้สึกตัวขึ้นมา  ถามอย่างงงๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้น

โดยสรุป เรื่องนี้ ผมมีประสบการณ์ตรง เจ้าพ่อพะยอมกับผมก็ไปบ้านนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีการเตี๊ยมกันล่วงหน้า

แล้วการที่คนเราจะไปกัดตูดไก่ จนไส้ไหลอยู่กับปากนั้น จ้างกันทำ  ผมว่าไม่มีใครรับทำ และในงานนั้น  คนถูกผีเข้าเป็นแม่ของเจ้าบ่าว คงไม่ทำเรื่องงี่เง่าแน่ๆ

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989




2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่มีคำอธิบายด้วยวิชชาธรรมกายหรอครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องนี้มันเกิดขึ้นตอนผมเป็นเด็ก ตอนนั้นยังไม่รู้จักวิชาธรรมกาย ก็ไม่รู้จะโยงกันอย่างไร แต่ในทางวิชาธรรมกาย ดวงวิญญาณของคนอื่น สามารถเข้าไปอยู่ในร่างของอีกคนหนึ่งได้ อ่านบทความอื่นๆ ในบล็อกนี้ประกอบ

      ลบ