บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ผีเขมรที่เกาะกูด


มีคนไปเล่าเรื่อง “ผีเขมรที่เกาะกูด” ไว้ในห้องเรื่องเล่าสยองขวัญของพันธุ์ทิพย์ไว้ดังนี้

เรื่องมันเกิดขึ้นในปลายฤดูร้อนปีหนึ่ง เมื่อ บรรดา สจ๊วตและแอร์รุ่นเดียวกับผม นัดรวมพลพรรคที่มีเวลาว่างตรงกันประมาณ 10 คน จัดทริปไปเที่ยวเกาะกูด

โดยพักที่บ้านกึ่งรีสอร์ทบนเกาะเล็กๆ ส่วนตัว ห่างออกมาจากชายแดนของประเทศกัมพูชาไม่มากนัก

ด้วยความที่อยากทำตัวเป็นไฮโซติดดิน พวกเราจึงทุลักทุเลเดินทางออกจากกรุงเทพฯในตอนบ่ายโดยรถโดยสารปรับอากาศของ บขส. จากสถานีเอกมัย มาลงที่ตัวจังหวัดตราด

แล้วต่อรถสองแถวไปที่ท่าเรือ เพื่อต่อเรือไปยังเกาะที่พักอีกที ซึ่งกว่าจะถึงที่หมายก็พลบค่ำ ทุกคนจึงเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง ขนาดที่เรียกได้ว่าแทบจะคลานขึ้นบ้านพักกันเลย

หลังจากเติมพลังงานด้วยอาหารเย็น ที่เจ้าของรีสอร์ทจัดเตรียมให้จนอิ่มหมีพีมันแล้ว พวกเราจึงออกเดินสำรวจบ้านพักและบริเวณโดยรอบ...

มันมีลักษณะเหมือนบังกะโลชายหาดแบบโบราณทั่วไป คือ ยกพื้นสูงประมาณ เมตรกว่าๆ ตัวเรือนทำด้วยไม้ มีหน้าต่างโดยรอบ ทำให้อากาศถ่ายเทได้เป็นอย่างดี

ด้านหน้าเป็นท้องทะเลสีครามเข้ากับสีฟ้าอ่อนของตัวบ้าน ด้านหลังอิงแอบกับเนินเขาลูกเล็ก ๆ ที่มีบรรดาพืชพันธุ์ต่าง ๆ ขึ้นเบียดเสียดกันอยู่มากมาย

เสียงสรรพสัตว์ต่าง ๆ ร้องเบา ๆ ดังออกมาจากป่าละเมาะนั้น แต่เสียงหนึ่งที่ทำให้ผมขนลุกด้วยความกลัวปนขยะแขยงมากที่สุด คือเสียงของตุ๊กแกที่ไต่ยั้วเยี้ยอยู่ตามผนังบ้าน

ระหว่างทาง พวกเราได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่มาทำงานที่รีสอร์ทแห่งนั้น ทุกคนต่างก็มีอัธยาศัยอันดี ยกเว้นแต่พ่อแม่ลูกสามคนที่มองผมและซุบซิบกันด้วยท่าทีแปลกๆ...

คืนนั้น...พวกเรานั่งเฮฮา ตากลมริมชายหาด จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงคืน จึงเดินกลับเข้าตัวบ้านเพื่อพักผ่อน

ด้วยความที่สนิทกันมาก แต่ละคนจึงลากเอาที่นอนหมอนมุ้งมานอนรวมกันที่ห้องใหญ่ห้องเดียว ต่างพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน...

สักพักใหญ่ๆ เสียงจ้อกแจ้กจึงค่อยๆ ลดระดับลงเป็นเสียงกระซิบ และเงียบไปในที่สุด แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้องเห็นเป็นเงาสลัวลาง เสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ

กอรปกับความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทำให้ผมผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย

เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรไม่ทราบ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินตุ๊กแกร้องระงมอยู่ภายนอก เสียงนั่นทำให้ต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง เอามืออุดหูด้วยความเกลียดกลัว...

น่าแปลกที่บรรดาเพื่อนๆ ยังคงนอนหลับกันอย่างสบายอารมณ์ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

สักพัก เสียงตุ๊กแกก็สงบลง แต่คราวนี้กลับมีเสียงของชายหญิงคู่หนึ่งดังขึ้นเบาๆ ผมพยายามฟังว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่

แต่ไม่สามารถเข้าใจได้แม้แต่คำเดียว...เหมือนกับเป็นภาษาเขมร

ผมค่อยๆ พลิกตัวมองไปยังหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งเป็นที่มาของเสียง... ท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสงจันทร์สลัว...ภาพลางๆที่เห็นเบื้องหน้าคือ ชายหญิงและเด็กที่ผมพบตอนเดินเล่นเมื่อช่วงค่ำนั่นเอง...

การสนทนาสะดุดหยุดลงทันที เหมือนรู้ว่ามีคนกำลังแอบฟังอยู่ ทั้งหมดหันมาจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เย็นชา...

อ๋อ...พวกชาวบ้านที่ทำงานที่นี่นั่นเอง” ผมคิดในใจพร้อมกับเอ่ยถามพวกเขาเบาๆ ด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเพื่อนที่นอนหลับอยู่

มีอะไรหรือครับ...มาทำอะไรกันดึกๆดื่นๆอย่างนี้...” เสียงของผมทำให้เพื่อนบางคนเริ่มขยับพลิกตัว...เมื่อเหลียวไปมองก็เห็นเงาตะคุ่มๆ กำลังโงนเงนลุกขึ้นนั่ง

เพียงเสี้ยววินาทีที่ผมละสายตาจากพวกเขาเหล่านั้น... พลันปรากฏภาพของเด็กผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ข้างนอกเมื่อสักครู่ มายืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอน ...ถือไม้ท่อนใหญ่ท่อนหนึ่งแกว่งเล่นในมือ...

ผมงงงันกับภาพเบื้องหน้า ไม่เข้าใจว่าเด็กนั่นแอบปีนเข้ามาในห้องพักของพวกเราตั้งแต่เมื่อไร

โดยไม่คาดคิด...แกเริ่มออกวิ่งไปรอบๆห้อง กระโดดข้ามเพื่อนบางคนที่ยังคงนอนขวางอยู่ พลางเอาไม้ที่ถืออยู่เคาะผนังดังก๊อกๆๆ ๆพร้อมส่งเสียงกรีดร้อง...มันดังโหยหวน จนผมต้องยกมือขึ้นปิดหู

ถึงตอนนี้ เพื่อนๆ ผมก็ตื่นกันหมดแล้ว ทุกคนต่างลุกขึ้นนั่งแล้วมองหน้ากันด้วยความงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น...

ผมพยายามร้องห้าม แต่เด็กนรกนั่นไม่ยอมหยุด ยังคงวิ่งพล่านเคาะฝาผนังรอบห้องต่อไป ผมจนปัญญาจึงหันไปหาสามีภรรยาที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

พี่ๆ ช่วยมาเอาลูกออกไปหน่อยสิครับ ซนจริงๆ...” ผมกวักมือเรียกสองคนนั่น แต่น่าแปลกที่พวกเขาดูเหมือนจะไม่สนใจใยดี ว่าลูกตัวเองกำลังรบกวนการพักผ่อนของพวกเราอยู่

คุยกับใครที่ไหนอยู่เหรอ แอนดี้...แล้วนี่เสียงอะไรน่ะ ใครร้อง...ใครเคาะฝาบ้าน” เสียงสั่น ๆ ของเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น พร้อมหันไปมองรอบๆอย่างหวาด ๆ ราวกับว่ามันไม่เห็นใครอยู่เลย

อ้าว...ก็เรียกให้พ่อแม่ของเด็กนี่มาเอาลูกเค้าออกไปน่ะสิ...วิ่งเล่นอยู่ได้ ไม่หลับไม่นอน...”

ผมตอบอย่างเหลืออด จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้น อาศัยแสงจันทร์ หาทางเดินไปยังแผง สวิทช์ไฟ แล้วกดปุ่มให้มันทำงาน...แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ห้องทั้งห้องยังคงมืดมิด

ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนๆ ผมกดปุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า แข่งกับเสียงกรีดร้องและเสียงเคาะผนังห้องของเด็กนั่น ความกดดันปะทุขึ้นจนผมไม่สามารถทนได้

ผมใช้นิ้วกระแทกย้ำไปที่สวิทช์ไฟอีกหลายครั้ง พร้อมตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด

ไอ้หนูหยุด...หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้...”

เมื่อสิ้นเสียงของผม แสงจากดวงไฟหลายดวงบนเพดานพลันสว่างขึ้น เสียงอึกทึกและภาพของเด็กน้อยคนนั้น กลับหายไปในพริบตา ห้องทั้งห้องกลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง...

ผมมองไปรอบๆ เห็นบรรดาเพื่อนๆ นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ด้วยความหวาดกลัว

ผมรีบสาวเท้าเดินไปที่หน้าต่างตรงหัวนอน เพื่อมองหาทั้งสามคนนั่น แต่กลับไม่พบอะไรเลย...แข็งใจมองฝ่าความมืดออกไป เห็นเงาตะคุ่ม ๆ กลุ่มหนึ่งเดินอยู่ตรงท่าเรือ

พวกเขาหันมามองที่ผมอีกครั้ง ด้วยแววตาเฉยชาเช่นเคย แล้วค่อยๆ เดินห่างออกไป จนกระทั่งลับสายตาในที่สุด
…………………………….

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ผมเดินลงไปดูตรงบริเวณที่เห็นสามีภรรยาเมื่อคืน (เดินไปคนเดียว เพื่อนคนอื่นกำลังสาละวนเก็บของหนีกลับกรุงเทพฯ) พบว่ามีศาลเพียงตาตั้งอยู่สองหลัง...

ทำไมนะ เมื่อวานพวกเราถึงไม่มีใครเห็นศาลนี้กันสักคน...สอบถามคนงานดูจึงทราบว่า มันถูกสร้างให้สามีภรรยาและลูกชายที่นั่งเรืออพยพมาจากกัมพูชาเพื่อหนีสงครามเมื่อหลายปีมาแล้ว

แต่โชคร้ายที่เรือมาล่มจมน้ำตายหมดทั้งครอบครัว และศพถูกกระแสน้ำพัดมาเกยตรงบริเวณหาดหน้าบ้านหลังนี้

ที่น่าแปลกก็คือ ไม่เคยมีใครเคยพบวิญญาณพ่อแม่ลูกครอบครัวนี้มาก่อน และไม่มีใครได้พบพวกเขาอีกเลยหลังจากคืนนั้นครับ...

โดยปรกติแล้ว  ถ้าผีท่านมาแสดงตัวให้เห็นนั้น ส่วนใหญ่ต้องการขอบุญจากคนที่เห็นตัวเขา  ซึ่งไม่มีค่อยมีมากนัก

แต่กรณีของผีในเรื่องเล่านี้ ไม่ค่อยแน่ใจว่า ครอบครัวผีมาแสดงอาการอย่างนั้นทำไม

แล้วครอบครัวผีชุดนี้  คงจะแสดงอาการแบบนี้มานานแล้ว  ถึงขนาดมีการตั้งศาลให้  เพราะ ถ้าไม่แสดงอิทธิฤทธิ์กันอย่างหนักแล้ว  ก็คงไม่มีใครตั้งศาลให้แน่ๆ

ในทางวิชาธรรมกายนั้น ถ้าอยากรู้จริงๆ ก็ต้องไปสัมภาษณ์ผีกันให้ถึงที่  ถึงจะรู้เหตุรู้ผล


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น