บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

เกี่ยวกับการตาย


ในบทความ “พระอหิวาตกโรค” ผมได้เขียนภาพรวมคร่าวๆ เกี่ยวกับพระห่าๆ รูปหนึ่ง ที่ก่อความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของพุทธศาสนิกชนอย่างที่ไม่ควรจะเป็นพระ

ในบทความ “อลัชชีปราชิก” ผมได้ยกตัวอย่างการอวดอุตริมนุษยธรรมของอลัชชีรูปนี้ และได้ยืนยันไปแล้วว่ พระรูปนี้ น่าจะปราชิกไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว

ต่อไปก็ข้อความอันโกหกพกลมของอลัชชีปราชิกท่านนี้

ข้อความนี้

ท่านได้เอ่ยบอกกับแม่และครอบครัวของเราว่า..พ่อของผมที่ท่านพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2554 นั้นคือการตายสละชีวิตแทนลูกชายคนกลาง คือตัวของผมเอง

ขอยืนยันว่า นี่ก็คือการโกหกพกลมประการหนึ่ง

ผมนี่ค่อนข้างจะสนิทสนมกับคนตายพอสมควร ชวนไปเรียนวิชาด้วยกัน ท่านก็ไป สัมภาษณ์ท่านเมื่อตายไปแล้วท่านก็ให้สัมภาษณ์  ช่วยคนที่ตายไปแล้ว มาก็มาก

ขอยืนยันว่า “การตายแทนกันเป็นไปไม่ได้”  ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กันขนาดไหน สามี-ภรรยา พ่อแม่-ลูก ฯลฯ  การตายเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวจริงๆ

คนดี เป็นคนของธรรมะภาคขาว ทำงานให้กับธาตุธรรมภาคขาวอย่างก้าวหน้า มารมันต้องการให้ตายก่อนกำหนดของอายุ  มารมันก็ทำไม่ได้

คนชั่ว เป็นคนของธรรมะภาคดำ ทำงานให้กับธาตุธรรมภาคดำอย่างก้าวหน้า ธาตุธรรมฝ่ายดีต้องการให้ตายก่อนกำหนดของอายุ  ท่านก็ทำไม่ได้

ข้อความนี้
คุณพ่อยังไม่รู้ตัวว่าตนตายแล้ว และตอนนี้ต้องการจะให้ลูกชายคือตัวผมติดตามไปอยู่ด้วย..คือลูกชาย (ตัวผม) จะได้ประสบกับอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต

ขอยืนยันว่า นี่ก็คือการโกหกพกลมอีกประการหนึ่ง

คนที่ตายไปแล้วนั้น ในระยะแรกท่านจะไปอยู่กับกายเนื้อของท่าน  ถ้าเป็นการตายตามปรกติ กล่าวคือ มีการนำศพไปวัด ท่านก็จะไปอยู่แถวๆ นั้น

พอมีญาติ มีเพื่อนเข้ามา ท่านก็จะไปทักทาย  เมื่อเพื่อนกับญาติไม่ตอบ หรือไม่สื่อสารกลับมา ท่านก็จะไม่เข้าใจว่า ทำไมเพื่อนกับญาติถึงไม่ตอบ

คนตายไปแล้ว จะไม่มีระบบคิดด้วยเหตุผลเหมือนคนเป็น เพราะ มันสมองใช้ไม่ได้แล้ว คนตายจึงจะรู้แค่ “จริง” หรือ “เท็จ”  ไม่สามารถที่จะใช้ระบบเหตุผลเพื่อไปหาความรู้ได้อย่างมนุษย์

แต่ภายใน 7 วัน ท่านก็จะรู้ว่าท่านตายไปแล้ว  ไม่ใช่ตายไปเป็นปี ยังไม่รู้ว่าตาย อย่างนี้ อลัชชีปราชิกมั่วนิ่มไปแล้ว

นอกจากนั้น การที่จะกำหนดให้คนอื่นตายตามตัวเองไป ก็มีเฉพาะในหนังผีเท่านั้น ชีวิตจริงไม่มีแบบนี้ 

ผีนั้น ไม่ได้มีอำนาจวาสนาหนา หรือมีฤทธิ์มีเดชที่จะทำอะไรได้ ตามที่สร้างกันในหนัง  แค่เอาร่างกายของตนให้คนเห็นนั้น  ก็ต้องใช้พลังหรือบุญบารมีมหาศาลแล้ว

การแสดงร่างให้คนดูครั้งหนึ่ง ต้องเสียบุญ เสียบารมี ดังนั้น ผีที่มีเหตุผล เขาจึงเลือกแล้วเลือกอีกที่จะให้ใครเห็นเขา เพราะ เห็นแล้ววิ่งหนีไปเลย ในขณะที่ผีต้องการให้คนนั้น แผ่ส่วนบุญให้ ก็ถือว่า “เป็นการลงทุนที่สูญเปล่า”

ผีตนนั้น อาจจะต้องไปทนทุกข์ทรมานเพราะใช้บุญบารมีอย่างไม่เข้าท่า 

อย่างไรก็ดี อย่างนี้มีข้อยกเว้นเหมือนกัน คือ ผีที่มันอยู่ในอบายภูมิมานาน ทนทุกข์ทรมาณอยู่นานแล้ว  ไอ้พวกนี้ บางทีมันมาหลอกหลอนมนุษย์ได้จริงๆ  เพราะ มันโสตายอยู่แล้ว  จัดเป็นพวก “เดนผี” ได้

ดังนั้น การที่ผีจะมาเอาชีวิตคน แล้วบอกด้วยว่า “จะตายด้วยสาเหตุใด” นั้น  ในกรณีที่เล่ากันอยู่นี้ จะตายด้วยอุบัติเหตุ  จึงไม่ใช่เรื่องจริง  อลัชชีปราชิกผู้นี้ โกหกอย่างเดียว

ข้อความนี้

โดยคุณพ่อได้ให้เหตุผลกับพระภิกษุรูปนี้ว่า ต้องการลดภาระครอบครัวให้กับคุณแม่..เพราะตอนนี้มีพี่ชาย ผม และน้องสาว คุณพ่อเกรงว่าจะเป็นภาระการเลี้ยงดูของแม่...

อลัชชีปราชิกผู้นี้ มันก็โคตรงี่เง่าจริงๆ ถ้าเป็นห่วงกันจริง มาเข้าฝันบอกหวยสักงวดสองงวดไม่ดีกว่าหรือ  จะมาเอาชีวิตลูกไปทำไม

จะโกหกทั้งที  ก็โกหกแบบโง่ๆ...

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น