บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ผีอำผม


วันนี้มาคุยกันเรื่อง “ผีอำ” กันดีกว่า  คำว่า “ผีอำ” นี่ไม่ใช่ผีมา “อำ” หรือโกหกเราเรื่องนั้นเรื่องนี้  แต่เป็นการที่ผีไม่อยู่ส่วนผี แต่มายุ่งกับคนอย่างเรา 

โดยส่วนใหญ่แล้ว  ผีที่ชอบอำ มักจะมารบกวนตอนที่เราต้องการจะนอนพักผ่อน

พจนานุกรมให้ความหมายของ “ผีอำ” ไว้ดังนี้

ผีอำ   ก. อาการที่ปรากฏเมื่อเวลานอนเคลิ้มไปว่า มีคนปลุกปลํ้า หรือยึดคร่าให้มีอาการเหนื่อยหอบจนตื่นขึ้น

ข้อความด้านล่างนี้ เอามาจากหลายเว็บ ซึ่งลอกกันไปลอกกันมา จนไม่รู้ว่าเว็บไหนเป็นต้นฉบับ

ผีอำเป็นความเชื่อของคนหลายเชื้อชาติมาแต่โบราณว่า เมื่อเคลิ้มเกือบจนหลับ จะมีความรู้สึกอึดอัดเหมือนมีใครมากดทับที่ร่างกาย ไม่สามารถขยับตัวหรือส่งเสียงใดๆ ได้

จึงเชื่อว่า เป็นการกระทำที่เกิดจากผี

แต่ในทางของวิทยาศาสตร์ ผีอำเกิดจากขณะที่กำลังจะตื่น อาจจะเกิดจากโรคลมหลับ หรืออาจจะเกิดในคนที่อดนอน หรือนอนไม่พอมาหลายวัน หรือเข้านอนผิดเวลาก็เป็นได้

สำหรับอาการของผีอำ มักเกิดทันทีเมื่อหมดช่วงการหลับแบบตากระตุก โดยจะเป็นอยู่ไม่กี่นาที แล้วค่อยๆ หายหรือหายทันที เมื่อถูกเรียก ถูกสัมผัส ถูกปลุก โดยใครก็ได้

ผู้ที่เป็นผีอำจะรู้สึกว่า ตนนั้นตื่นอยู่ แต่ขยับเขยื้อนไม่ได้ ทั้งที่ตนได้พยายามขยับเขยื้อนแล้ว

พยายามตะโกนเรียกให้คนช่วยแล้ว แต่ไม่มีคนได้ยิน เพราะไม่มีเสียงออกมา และเมื่อตื่นขึ้นจะจำเหตุการณ์และเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นได้

ผมเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับผีอำ 3 ครั้ง  จึงขอยืนยันว่า “ผีอำเป็นเรื่องจริง”  ประสบการณ์  3  ครั้งนั้น ผมเป็นผู้ถูกผีอำเอง  2  ครั้ง และเห็นคนอื่นถูกผีอำ  1  ครั้ง

ประสบการณ์ครั้งที่ 1

ตอนนั้นบวชพระครั้งที่ 2  ผมบวชพระ 4 ครั้ง บวชเณรก็ประมาณนี้  บวชพระครั้งที่ 2 นี้ ผมไปบวชที่โครงการของวัดทับคล้อ (สวนพระโพธิสัตว์) ตะพานหิน พิจิตร 

บวชที่พิจิตร 15 วัน แล้วผมก็กลับมาอยู่ที่วัดส่องคบ  จังหวัดชัยนาทต่ออีก 15 วัน

วัดส่องคบนี่ อยู่ต่ำจากตลาดบรมธาตุที่ผมอยู่ ประมาณกิโลเมตรกว่าๆ  ในการบวชครั้งแรก ผมก็มาอยู่ที่วัดนี้

คุณแม่ผมมาทำบุญกับหลวงพ่อแช่มที่วัดนี้เป็นประจำ  ตอนเรียนประถมปลาย ก็เรียนที่โรงเรียนวัดส่องคบ  

บวชเณรประมาณ 4-5 ครั้ง ส่วนใหญ่ก็บวชอยู่ที่วัดนี้

จำได้ว่า เป็นตอนบ่าย จึงหาที่จำวัด ตอนนั้นโบสถ์กำลังสร้างใหม่ แต่หยุดการก่อสร้างไปช่วงหนึ่ง ผมก็ไปหานอนจำวัดอยู่ที่บริเวณหน้าโบสถ์ เพราะ อากาศมันน่าจะเย็นดี

พอจะเคลิ้มๆ จะหลับ คุณผีมันก็เริ่มทำงานของมัน คือ มันมากวนไม่ให้เรานอนหลับ  

เมื่อมันมากวนเรา ผมก็รู้ว่า มันต้องการไม่ให้ผมนอนหลับ แต่ผมก็ขี้เกียจลุก ผมก็เลยนอนสู้กับมันอยู่อย่างนั้น 

คือ มันกวนเรา ไม่ให้หลับ เราก็พยายามจะหลับให้ได้ ไม่หนีไปไหน  ยังนึกด่ามันในใจว่า “ไอ้ผีชิบหาย กูเป็นพระ ยังไม่เว้นเลยนะมึง

ปรากฏว่า สู้กันไป สู้กันมา ประมาณ 3 ชั่วโมง  เป็นการต่อสู้ที่ยาวนานมาก  ผมก็ต้องยอมแพ้แก่ผีมัน ผมก็เลยประกาศในใจว่า “กูไปก็ได้วะ” 

แล้วผมก็ลุกไปจำวัดต่อที่กุฏิของผมอย่างมีความสุข  นึกในใจว่า “กูน่าจะยอมแพ้มัน เสียตั้งนานแล้ว

ตอนผีอำนี่ ทำวิชาอะไรก็ไม่ได้ ท่องสัมมาอะระหังอะไรก็ไม่ได้ผล  ที่พูดนี่ ไม่ได้หมายความว่า “วิชาไม่ดี”  แต่หมายถึงว่า “ผมทำวิชาได้ไม่ดีเอง”

หลังจากนั้นมา ผมก็ไปถามท่านผู้รู้ทั้งหลายในวัด ปรากฏว่า ผีตนนั้น มีความเป็นมาอย่างนี้

ท่านเป็นคนไข้ที่ถูกหมาบ้ากัด แต่อาการหนักแล้ว ตอนที่เอามาส่งวัด  วัดส่องคบนั้น เป็นวัดที่รักษาคนบ้าได้ด้วย 

วิธีการรักษาคนบ้า หลวงพ่อแช่มซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านจะบังคับให้คนบ้ากินยาถ่ายก่อน  พวกผมตอนเป็นเณร เป็นพระ เป็นเด็กวัด ก็ต้องบังคับคนไข้กินยาถ่ายให้ได้

ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะเอายากรอกปากคนไข้  ไอ้ป็อกเพื่อนผม (ตอนนี้อยู่อเมริกา) ซึ่งตอนนั้นบวชเป็นพระ ถึงกับบังคับด้วยการตีคนไข้ก็มี

หลังจากถูกบังคับกินยาถ่ายแล้ว  คนไข้ก็จะถ่ายออกมา  พวกพระ พวกเณร พวกเด็กวัดก็ต้องทำความสะอาดบริเวณนั้น 

คนไข้ที่อาการหนักมากๆ ถึงขนาดแก้ผ้าแก้ผ่อนก็มีมาก (ผู้หญิงก็มี)

เมื่อไหร่ก็ตาม คนไข้รู้สึกตัว  ที่แก้ผ้าแก้ผ่อนก็รู้สึกอาย ขอเสื้อผ้าใส่ แสดงว่า อาการดีขึ้น หลวงพ่อแช่มก็จะให้ยาตัวต่อไป

คนที่มารักษาที่วัดส่องคบกับหลวงพ่อแช่มนั้น ส่วนใหญ่จะหาย ถ้าส่งตัวมาเร็วๆ แต่บางคนก็ตาย อย่างรายที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้

คนไข้คนนี้อาการหนักมาก  จึงถูกล่ามโซ่ไว้ที่เสาโบสถ์ คนล่ามนั้น ล่ามไว้หลวมๆ  คนไข้จึงปีนขึ้นไปที่ส่วนบนของโบสถ์ได้

เมื่อไปถึงส่วนบนแล้ว ก็ท่านถูกหมาบ้ากัด  ท่านก็เอาปากท่านไปงับคานโบสถ์  แล้วมันจะเหลือเรอะ ท่านก็ร่วงมาเสียชีวิตตรงที่ผมไปนอนทับ นั่นแหละ

เมื่อถูกพระใหม่ไปนอนทับ ท่านก็จึงต้องทำการขับไล่  นั่นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ถูกผีอำของผม

ประสบการณ์ครั้งที่ 2

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดที่ลพบุรี  ผมสอนที่โรงเรียนบ้านม่วง (อยู่ประยงค์ ณ บ้านเบิก)  บ้านแฟนอยู่ที่บ้านเบิก ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2-3 กิโลเมตร 

ผมมาเที่ยวบ้านแฟน ง่วงมากก็เลยไปนอนพักอยู่ชานบ้าน  

เริ่มนอนก็เริ่มโดนผีอำ  ในเมื่อผมมีประสบการณ์มาแล้ว ผมก็เริ่มต่อสู้กับมันอีก คือ มันจะไม่ให้เราหลับ  จะไล่ให้เราลุกไป  เราก็ไม่ไป นึกในใจว่า “กูจะนอนตรงนี้ มึงอย่ามายุ่งกับกู

แต่การถูกอำครั้งนี้  ผมคงนอนนิ่งๆ ไม่พลิกไปพลิกมา  คนในบ้านก็ไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปรกติอย่างไร

ผมก็สู้กับผีอยู่นานเหมือนกัน  แล้วเหตุการณ์ก็เข้ามาอีหรอบเดิมคือ “ผมแพ้ผีอีกครั้งหนึ่ง”  ก่อนลุกผมก็ประกาศความพ่ายแพ้ว่า “กูไม่นอนก็ได้วะ” 

ไอ้ที่น่าเจ็บใจก็คือ พอเราลุกไปแล้ว  แฟนที่เห็นผมนอนนิ่งๆ ไม่มีอาการแปลกปลอมอะไร ก็มาถามว่า “นอนตรงนั้น ไม่โดนผีอำหรือไง ใครนอนต้องโดนผีอำทุกคน

ผมนึกในใจ  ทำไมไม่บอกแต่ทีแรกวะ  ตอนนั้นยังเป็นแฟนกันใหม่ๆ ก็ตอบไปว่า “ก็โดนน่ะซิ ถึงลุกหนีมานี่

ประสบการณ์ครั้งที่ 3

ผมพาเพื่อนรุ่นน้องเป็นผู้หญิงไปพักบ้านเพื่อน เป็นบ้านพักครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี

เพื่อนคนนี้ชื่อ “ประเดิมชัย จริยะยรรยง” เป็นเพื่อนร่วมห้องตอนที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยครูนครสวรรค์ แล้วก็มาสอบบรรจุที่ลพบุรีด้วยกัน

จำได้ว่า คนสมัครสอบ 1,999 คน  ผมสอบได้ที่ 9  คุณประเดิมชัยท่านได้ที่ร้อยกว่า  ตอนเป็นครูจึงอยู่ห่างกันเป็นร้อยกิโล  แต่ก็ไปมาหาสู่กันตลอด

ตอนนั้นมืดๆ หน่อยแล้ว  เพื่อนรุ่นน้องก็นอนหลับไปแล้ว  ผม เพื่อน กับภรรยาของเพื่อนกำลังคุยกันอยู่ 

สักพักได้ยินเสียงเพื่อนรุ่นน้อง ดิ้นไป ดิ้นมา พลิกตัวกระสับกระส่าย 

ผมก็ถือตะเกียง พากันเข้าไปดู (ตอนนั้น ไฟฟ้ายังไม่เข้าที่นั่น)  พวกเราทั้ง 3 คน ก็เห็นว่า เพื่อนรุ่นน้องคนนั้น นอนดิ้น พลิกไปพลิกมา

พวกเราก็คุยกันว่า “โดนผีอำ” 

ผมและคณะสังเกตการณ์กันอยู่นานพอสมควร  เห็นว่า พอสมควรแก่เหตุการณ์ผมก็ไปปลุกเพื่อนรุ่นน้องคนดังกล่าว

เขาเล่าให้ฟังว่า โดนผีอำ  ตอนที่พวกเราเดินไปดู เขาก็รู้แต่ทำอะไรไม่ได้

โดยสรุป

ผีอำเป็นเรื่องจริง ตามประสบการณ์ที่ผมพบเห็นมาจริงๆ โดนกับตัวเองด้วย  แต่การเป็นโรคชนิดหนึ่ง ตามที่แพทย์แผนปัจจุบันบอกมา ก็เป็นเรื่องจริง 

 เราต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปว่า คนไหนโดนผีอำ  คนไหนเป็นโรคอย่างที่หมอว่า

หนทางแก้ผีอำ ก็ต้องปฏิบัติธรรมให้เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น  ตอนที่โดยผีอำครั้งแรกนั้น ผมเริ่มฝึกปฏิบัติธรรมแล้ว แต่ไม่มาก  ทำๆ หยุดๆ

ปัจจุบันนี้  ผีมันไม่กล้ามาอำผมแล้ว เพราะกลัวจักรพรรดิของผม  ที่มายุ่งกับผมนี่ เป็นพวกมารเสียเป็นส่วนใหญ่


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น