บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

อลัชชีปราชิก


ในบทความ “พระอหิวาตกโรค” ผมได้เขียนภาพรวมคร่าวๆ เกี่ยวกับพระห่าๆ รูปหนึ่ง ที่ก่อความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของพุทธศาสนิกชนอย่างที่ไม่ควรจะเป็นพระ

ในบทความนี้ มาอธิบายความในรายละเอียดลงไปอีกหน่อย  พระได้บอกกับผู้ที่มาปรึกษาหรือมาดูดวงว่า “ท่านนั้น ระลึกเรื่องราวในอดีตชาติได้

แล้วก็บอกว่า สามีของผู้หญิงคนนั้น ตายแทนลูกชายคนกลาง คนตายยังไม่รู้ว่า “เขาตายไปแล้ว” ตอนนี้ต้องการเอาชีวิตลูกคนกลางนั้นคืนไป เพราะต้องการลดภาระเรื่องการส่งให้เรียนหนังสือ เนื่องจากมีลูกถึง 3 คน

ลูกคนกลางนั้น จะต้องตายด้วยอุบัติเหตุ

พระห่าๆ รูปนี้ ทิ้งท้ายว่า “อาตมาจะอธิบายให้ท่านเข้าใจ..และทางหนึ่งลูก (คือตัวผม) จะต้องหมั่นกตัญญูปรนนิบัติคุณแม่ให้ดี..อาตมาจะเอาตัวนี้ไปปิดให้” 

น่าน..........ดูเจตนาการทำมาหากินของอลัชชีรูปนี้  มันโกหกเรื่องทั้งเรื่อง แล้วจะเอาบุญคุณคือ โกหกว่า ได้ช่วยชีวิตลูก เพื่อต้องการลาภสักการะเท่านั้น

พระอลัชชีเวรๆ แบบนี้ก็มีด้วย

ข้อความที่จะวิพากษ์วิจารณ์ในบทความนี้ก็คือ “ท่านนั้น ระลึกเรื่องราวในอดีตชาติได้” และ “อาตมาจะเอาตัวนี้ไปปิดให้”  ข้อความหลังนี้ ผมไม่เข้าใจนักว่า อลัชชีรูปนี้จะทำอย่างไร แต่ก็คงหมายความว่า “จะช่วยให้บุตรชายของท่านผู้นี้รอดตาย”

ทั้งสองข้อความดังกล่าวนั้น เข้าค่าย “อุตริมนุสธรรม” ทั้งสิ้น

คำว่า “อุตริมนุสธรรม” นี้ ความหมายในพระศาสนาเป็นความหมายที่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่พุทธศาสนิกชนควรทำให้ได้  ควรทำให้ถึง

อุตริมนุษยธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะทำ/) หรือ อุตริมนุษยธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะยะทำ/) แปลว่า ธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ หรือ ธรรมของมนุษย์ผู้ยวดยิ่ง ได้แก่ คุณวิเศษซึ่งมนุษย์ธรรมดาไม่สมารถมีหรือเป็นได้ มิใช่วิสัยของมนุษย์ทั่วไป แต่เป็นวิสัยของผู้บรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว

อุตริมนุษยธรรม หมายถึง ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค และผล

การที่ภิกษุแสดงตนหรือพูดให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนได้ฌานชั้นนั้นชั้นนี้ ตนได้บรรลุวิโมกข์ ได้สมาธิ สมารถเข้าสมาบัติได้ หรือสำเร็จมรรคสำเร็จผลอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่า อวดอุตริมนุษยธรรม

ปัจจุบันคำนี้ถูกนำมาใช้เรียกผู้ที่ชอบอวดอ้างตนเหนือกว่าคนอื่นหรือทำอะไรที่แผลง ๆ ที่คนทั่วไปเขาไม่ทำกันว่า "อวดอุตริ" หรือ "อุตริ" เฉย ๆ [ที่มา : พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548]

อลัชชีรูปนี้ ได้กระทำการอวดอุตริมนุษย์ธรรมเข้าไปแล้ว แล้วดูเหมือนว่าจะ  “ปราชิก” เอาเสียด้วย  ดูปราชิก 4 จากพระไตรปิฎกเลย

ปาราชิกสิกขาบทที่ ๔

โย ปะนะ ภิกขุ อะนะภิชานัง อุตตะริมะนุสสะธัมมัง.....
อนึ่ง ภิกษุใด ไม่รู้เฉพาะ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ ความเห็น อย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตนว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้

ครั้นสมัยอื่นแต่นั้น อันผู้ใดผู้หนึ่ง ถือเอาตามก็ตาม ไม่ถือเอาตามก็ตาม เป็นอันต้อง อาบัติแล้ว มุ่งความหมดจด จะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า แน่ะท่านข้าพเจ้าไม่รู้อย่างนั้น ได้กล่าวว่ารู้ ไม่เห็นอย่างนั้น ได้กล่าวว่าเห็น ได้พูดพล่อยๆ เป็นเท็จเปล่าๆ เว้นไว้แต่สำคัญว่าได้บรรลุ

แม้ภิกษุนี้ ก็เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้.

วิภังค์ (จำแนกความ)

บทว่า อุตตริมนุสสธรรม ได้แก่ ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ ญาณทัสสนะ มรรคภาวนา การทำให้แจ้งซึ่งผล การละกิเลส ความเปิดจิตความยินดียิ่งในเรือนอันว่างเปล่า

บทว่า เป็นปาราชิก ความว่า ต้นตาลมียอดด้วนแล้ว ไม่อาจจะงอกอีกแม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแหละ มีความอยากอันลามก อันความอยากครอบงำแล้ว

พูดอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริง ย่อมไม่เป็นสมณะไม่เป็นเชื้อสายพระศากยบุตร เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า เป็น ปาราชิก

อนาบัติ
  1. ภิกษุสำคัญว่าได้บรรลุ
  2. ภิกษุไม่ประสงค์จะกล่าวอวด
  3. ภิกษุวิกลจริต
  4. ภิกษุมีจิตฟุ้งซ่าน
  5. ภิกษุกระสับกระส่ายเพราะเวทนา
  6. ภิกษุอาทิกัมมิกะ
ไม่ต้องอาบัติ.

โดยสรุป จากพฤติกรรมของพระรูปนี้ ที่อวดอ้างว่า เป็นพระกรรมฐาน การที่ได้พูดว่า “ท่านนั้น ระลึกเรื่องราวในอดีตชาติได้” และ “อาตมาจะเอาตัวนี้ไปปิดให้”  เข้าข่ายของการอวดอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีในตน 

อลัชชีรูปนี้ก็ปราชิกไปเรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว  ผมด่าอลัชชีปราชิกรูปนี้ ก็ไม่ใช่การด่าพระนะ ท่านผู้อ่าน... 


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น