บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ร่างทรงสอนธรรมะเชื่อได้หรือไม่


มีคนเข้าไปตั้งกระทู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ที่น่าสนใจ และควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน กระทู้นั้นชื่อ “ร่างทรงสอนธรรมะเชื่อได้ไหมคะ

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

แม่ชอบพาหนูไปหาป้า ที่เป็นร่างทรง แล้วแกชอบสอนธรรมะหนูกับแม่ แกพูดคล่องมากเหมือนท่องจำ  

แม่เชื่อ แต่หนูไม่เชื่อ เพราะบางครั้งแกชอบไปชุมนุม หนูจะบอกแม่ยังไงดี (เวลาพูดก็เหม่อลอยเหมือนคนไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว) ขอบคุณมากค่ะ

มาวิเคราะห์ความคิดเห็นของคนในกระทู้กันก่อน จะเลือกมาเฉพาะที่น่าสนใจ เพราะ ความคิดเห็นของคนในพันธุ์ทิพย์ส่วนใหญ่ “ไร้สาระ” 

คนที่มาแสดงความคิดเห็น อยากแสดงความคิดเห็นโง่ๆ มากกว่าที่จะเป็นอย่างอื่น

ความคิดเห็นที่ 4 เขียนไว้ดังนี้ 

“ใคร่ครวญเอา”

ความคิดเห็นแบบนี้ กวนตีน เต็มที่

ในความเห็นของผม ก็คนเขาสงสัย เขาจึงมาถาม เสือกบอกว่าให้ใคร่ครวญเอาเอง  ไม่ตอบเสียจะดีกว่า

ความคิดเห็นที่ 7 เขียนไว้ดังนี้ 

ถ้าสิ่งที่สอนคือธรรมะ ก็ศรัทธาในคำสอน ไม่ใช่ตัวคนหรือร่างทรง ต่อให้เป็นคำพูดจากปากโจร ถ้ามันเป็นธรรมะ ฟังแล้วได้สติได้ปัญญา ก็เชื่อได้

ดังนั้น ที่คุณต้องทำคือ ลองไปฟังดูครับ ว่าสิ่งเขาคุยกับแม่คุณ มันคือธรรมะ หรือแค่เอาพระธรรมมาอวดอ้างเพื่อหวังผลอย่างอื่น

ความคิดเห็นแบบนี้  ผมเห็นว่า เป็นการสำเร็จความใคร่ทางจิตด้วยคีย์บอร์ด”  เพราะ ไม่ได้ตอบคำถาม ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  คนตอบก็ไม่ได้อ่านกระทู้อย่างจริงจัง

คนตั้งกระทู้ เขาไปกับแม่เขา  เขาก็ได้ฟังอยู่แล้ว เขาจึงมาถาม  ไอ้นี่เสือกบอกให้ไปลองฟังดู  มันอ่านกระทู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ 

แล้วคุณคนนี้ ก็มีตรรกะบ้าๆ บอๆ ที่ว่า คือ ร่างทรงพูด หรือโจรพูด ถ้ามันเป็นธรรมะก็เชื่อได้ คำแนะนำแบบนี้ มันเป็น คำแนะนำควายๆ”  เพราะ มันเป็นไปไม่ได้ 

คนที่จะมีความคิดพิจารณาได้ว่า  อะไรคือธรรมะหรือไม่ธรรมะ” นั้น  เขาไม่มาถามในเว็บแบบนี้หรอก

ขนาดผมเอง คำสอนของพระหรือของนักวิชาการบางคน หลายครั้งเลยที่ผมต้องไปค้นเพิ่มเติมเป็นวันๆ เพื่อตรวจสอบว่า “อะไรคือธรรมะหรือไม่ธรรมะ”

ต่อไป มาดูความคิดเห็นของผู้ถูกพาดพิงกัน คือ ความคิดเห็นของพวกสำนักปู่สวรรค์  กล่าวคือ ความหมายของกระทู้นี้ มันโจมตีพวกสำนักปู่สวรรค์ด้วย

ความบ้าๆ บอๆ ของสำนักปู่สวรรค์ ผมเขียนบล็อกวิพากษ์วิจารณ์สำนักนี้ไว้แล้ว  สนใจก็ไปหาอ่านเอาเอง 

ความเชื่อก็ดี ความยึดถือก็ดี ความศรัทธาก็ดี แล้วแต่ท่านจะพิจารณา แล้วแต่ท่านจะยึดถือ เพราะทุกคนเขาเรียกว่า สวรรค์สร้างให้เรามีมนุษย์สมบัติ แห่งการมีสติสัมปชัญญะ แห่งการมีสมองในการคิด ในการทำ ในการพูด

ท่านต้องใช้วิจารณญาณแห่งการเป็นมนุษย์พิจารณา (คำสอนหลวงปู่ทวด สำนักปู่สวรรค์) หาก จขกท. สนใจ เข้ามาศึกษาได้ที่ poosawan.org  บอกกล่าวผู้สนใจศึกษาครับ

ความคิดเห็นนี้ก็สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ  คือ โฆษณาอย่างเดียว  

ความคิดเห็นที่ 6 ในกระทู้ดังกล่าว เขียนไว้น่าสนใจ ดังนี้

“ร่างทรง เขาก็หากินกับความเชื่อ ความกลัวของคน”

สำหรับในความคิดเห็นของผมนั้น เป็นดังนี้

1)  คำสอนของร่างทรงนั้น เชื่อถือไม่ได้แม้แต่คำเดียว  ไม่ควรไปรับฟัง ไม่ควรเอามาคิดแต่อย่างไร  ตรงนี้เป็นหลักการ

ร่างทรงนั้น เขาพูดเพื่อ “ทำมาหากิน”  การทรงเจ้าเข้าผีต่างๆ มันเป็นอาชีพของเขา 

ในเมื่อคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  มันก็ต้องพูดให้สอดคล้องกับคำสอนของศาสนาเอาไว้ก่อน  ไม่อย่างนั้นจะไปหลอกใครได้

สมมุติว่า ร่างทรงสอนว่า “นรก-สวรรค์ไม่มี ตายแล้วเกิดเพียงชาติเดียว บาปกรรม เคราะห์กรรมไม่มี ความดีความชั่วไม่มี”  แล้วใครจะไปหาร่างทรงเพื่อแก้ปัญหาของเขาผู้นั้น

ร่างทรงมันก็หมดอาชีพเท่านั้น

2)  สิ่งที่มาอยู่ในร่างทรง (ถ้ามี) ไม่ใช่พระ แต่เป็นมารทั้งหมด  สมเด็จโต หลวงปู่ทวดท่านไม่มาเข้าทรงใครแบบนั้น

สำนักใดก็ตาม  ที่อ้างว่าสมเด็จโต หลวงปู่ทวด “สื่อจิตมาสอน” หรือ เข้าทรงมาสอนนั้น โกหกเพื่อทำมาหาแดกทั้งสิ้น เชื่อถือไม่ได้ทั้งสิ้น

ที่ผมว่า สิ่งที่มาอยู่ในร่างทรง (ถ้ามี)” นั้น ความหมายโดยละเอียดเป็นอย่างนี้ 

ผมยอมรับว่า “การทรงเจ้าเข้าผี” นั้นมีจริง  แต่สิ่งที่มาเข้าทรงนั้น ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่เป็นพระ แต่เป็นผี เป็นมารทั้งหมด

แต่เมื่อการเข้าทรงเป็น “อาชีพ” อย่างหนึ่ง  บางครั้งผีติดธุระ มารติดธุระมาไม่ได้  บางครั้ง จิตมันไม่เอื้อ  ผีหรือมารไม่สามารถเข้าไปได้ 

ร่างทรงก็ต้อง “เข้าทรงแบบหลอกๆ” กัน เพราะ ลูกค้ามารออยู่ข้างหน้าแล้ว จะบอกได้อย่างไรว่า “วันนี้ ผีไม่ว่าง”

3)  มงคล 38 ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้นั้น ข้อแรกก็คือ ไม่คบคนพาล  การไปหาคนทรงนั้น ถือได้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่มงคลเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง

คำสอนในทางศาสนาพุทธก็ต้องไปฟังพระ  ขนาดไปหาพระ ก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจเลยในยุคนี้

4) คำแนะนำสำหรับเจ้าของกระทู้

ถ้าคุณแม่ชวนไปอีก ก็ต้องไปเพื่อนคุณแม่ เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูอย่างหนึ่ง  แล้วค่อยๆ บอกท่านว่า มีพระที่เก่งๆ กว่านี้ ไปหาพระไม่ดีกว่าหรือ....

แต่ต้องคิดให้ลึกอีกหน่อยว่า การที่คุณแม่ไปหาร่างทรงนั้น ไปพูดคุยเพื่อแก้ความกลัดกลุ้มในใจบางอย่างหรือเปล่า 

ถ้าพูดในลักษณะของแพทย์แผนปัจจุบันก็คือ “การไปหาจิตแพทย์”

การไปหาร่างทรงนั้น บางทีคนที่ไปหาก็ไม่ได้คาดหวังว่า ร่างทรงจะแก้ปัญหาได้ แต่การได้พูดได้คุย ได้การให้กำลังใจจากร่างทรง ทำให้อาการต่างๆ ดีขึ้น

หมอดู ร่างทรงนั้น ถือได้ว่าเป็น “จิตแพทย์แบบไทย” อย่างหนึ่ง  ดังนั้น จึงต้องใคร่ครวญให้ดี 

อย่างไรก็ดี การชักชวนคุณแม่เข้าหาธรรมะที่ถูกต้อง เป็นการแสดงความกตัญญูอย่างยิ่ง

บอกคุณแม่ไปว่า “เคราะห์กรรมของคนนั้น ผู้นั้นต้องแก้ไขเอง ไม่มีใครช่วยได้” ไม่มีการรดน้ำมนต์แล้วทำให้เคราะห์กรรมหมดไป 

การเสียเงินเพื่อสะเดาะเคราะห์นั้น เงินนั้นเสียแน่ แต่เคราะห์กรรมไม่หมดไป

เคราะห์กรรมจะหมดไปเมื่อมันหมดเวลาของมัน  แต่ถ้าอยากให้ “ผล” ของเคราะห์กรรมลดลงเร็วไป ก็ต้องปฏิบัติธรรม

ในฐานะที่ผมเป็นวิทยากรสอนวิชาธรรมกาย ก็ต้องแนะนำการปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกาย หาอ่านแถวนี้แหละ มีการแนะนำไว้แล้ว..

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989


2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19 มกราคม 2558 เวลา 09:44

    ร่างทรง แต่ทำไมเวลาทรง ทรงบนที่สูงทั้งนั้นเลยอะครับนั่งอยู่สูงกว่าคนธรรมดาตลอด ต้องเรียก ว่า สูงทรง แทนหรือเปล่าครับ ^^

    ตอบลบ
  2. คนที่เป็นใหญ่กว่าจะต้องอยู่สูงกว่าผู้น้อย มันเป็นหลักการธรรมดาของผู้ที่มีอำนาจ เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง

    ประธานสภาก็ต้องนั่งสูงกว่า สมาชิกสภา หัวหน้าก็ต้องนั่งหัวโต๊ะ ฯลฯ

    คนทรงมันก็เอามาเลียนแบบ...

    ตอบลบ