บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

อายุไขไม่หมด ทำไมตาย


อายุไขไม่หมด ทำไมตาย

จากการที่พยายามหาข้อมูลในเว็บเพื่อมาเขียนเรื่อง “พระอหิวาตกโรค” ก็ไปพบข้อมูลที่น่าสนใจที่ควรนำมาเสนอเป็นความรู้โดยทั่วไป

มีคนใช้ชื่อว่า “นิพพาน108” เขาไปถามในบอร์ดของเว็บพลังจิตว่า

อยากถามพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้รู้หน่อยครับ เกี่ยวกับเรื่องอายุขัย

พอดีเห็นว่า เวลาไปดูดวง เขาบอกกันว่า อายุยืน แต่บางคนก็อยู่ 30-40ปี ก็เสียชีวิตแล้ว พอไปดูใหม่ก็บอกอายุขัยยังไม่หมด แล้วเขาเสียชีวิตได้ยังไงอะครับ

ขอความกระจ่างหน่อยนะครับ สงสัย ขอบพระคุณครับ

วิพากษ์วิจารณ์คำถามก่อนเลย

คนถามนี่ค่อนข้างจะโง่ตั้งมากจนถึงมากที่สุด  แต่ก็สมเหตุสมผล เพราะ โง่ก็คือ ไม่รู้จึงมาถาม  ที่ว่าโง่นั้น เพราะอะไร 

คนถามนี้ เอามาตรฐานของหมอดูมาเป็นตัวชี้วัดความจริง  คือ ถ้าหมอดูว่าอย่างไรมา อันนั้นต้องเป็นความจริง 

หมอดูบอกว่า ไอ้นี่อายุยืน แต่พอไอ้หมอนี่อายุสั้น  ไม่ยืนตามที่หมอดูว่า

ท่านผู้นี้ แทนที่จะสงสัยว่า “หมอดูทำนายผิด”  เสือกเชื่อหมอดู  เอาคำของหมอดูเป็นมาตรฐานแล้วก็มาถามว่า ทำไมไอ้นั่นมันเสือกตายเร็ว ไม่เป็นไปตามคำของหมอดู

คนถามนั้น ถามแบบโง่ๆ อย่างซื่อๆ ก็พอจะยอมรับได้  แต่ขอให้อ่านตรงนี้ก่อน คนถามเขาขึ้นต้นว่า “อยากถามพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้รู้หน่อยครับ เกี่ยวกับเรื่องอายุขัย”  ปรากฏว่า มีคนตอบ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเข้ามาตอบกันเพียบ

คนแรกเลย ใช้ชื่อ “อาจารย์เตี้ย” เข้ามาตอบอย่างรีบด่วน กลัวไม่ได้แสดงความโง่ ดังนี้

กรรมหมดคับ คนเราเหมือนตะเกียง ตะเกียงคือ  
1) ไส้หมด น้ำมันไม่หมดไฟก็ดับ
2) ไส้หมด น้ำมันไม่หมดไฟก็ดับ
3) ไส้หมด หมดน้ำมันหมดไฟก็ดับ
4) ไส้ไม่หมดน้ำมันไม่หมดลมมาพัดดับ

ที่ข้าพเจ้าว่ายังนี้แปลว่า
1) หมดกรรม แต่ยังไม่สิ้นไขอายุก็ต้องตาย
2) อายุขัยหมด แต่กรรมยังหมดก็ต้องตาย
3) หมดทั้งกรรมและอายุขัยก็ต้องตาย
4) อายุขัยยังไม่หมด กรรมยังไม่หมดแต่มาตาย เพราะอุบัติเหตุนี่เอง

อ่านของอาจารย์เตี้ยแล้วก็มึนๆ แกเขียนเพราะอยากเขียนแสดงความไม่รู้ของแกเท่านั้น  ไม่ได้ตอบคำถามอะไรเลย 

การตายมันก็ต้องตายคือ หมดอายุไขแน่ๆ ไม่ว่าจะตายด้วยอุบัติเหตุ หรือป่วยตาย  อายุไขไม่หมด แล้วเกิดอุบัติเหตุตาย มันเป็นอย่างไรก็ไม่เขียนมา

สรุปว่า อาจารย์เตี้ยมั่ว  อยากเขียนเพื่อโอ้อวดเท่านั้น

คนต่อมาใช้เชื่อ “นายดอกบัว” ตอบไว้ดังนี้

ตายยังไม่ถึงอายุขัย ยมบาลก็ยังไม่สนใจ กลายเป็นผีเร่ร่อนไปก่อน (สัมภเวสี) ใช้กรรมจนหมด แล้วมันจะไป

กรรมมาตัดรอน เสียส่วนใหญ่ จึงตายก่อนกำหนด

ท่านนี้ก็มั่วไปด้วยกัน  “ตายไม่ถึงอายุไข” มันเป็นยังไงก็ไม่บอก  

เอาความหมายของ “อายุไข” มาดูกันก่อน ดังนี้

Lexitron Dictionary ของ NECTEC's

คำแปลที่ 1
[n.] end of life
[syn.] การสิ้นอายุ,ความตาย
ตัวอย่างประโยค  เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าลง ลูกก็มีหน้าที่เลี้ยงดูตอบแทนไปจนสิ้นอายุขัย

คำแปลที่ 2
[n.] average age  ตัวอย่างประโยค
แต่ก่อนประชากรในประเทศที่พัฒนามีอายุขัยโดยเฉลี่ยไม่เกิน 45-50 ปี แต่ปัจจุบันอายุยืนยาวขึ้นมาก

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน

อายุขัย ความหมาย
น. การสิ้นอายุ, ความตาย; อัตรากําหนดอายุจนสิ้นอายุ. (ป.; ส. อายุกฺษย).

พจนานุกรม ไทย-ไทย อ.เปลื้อง ณ นคร      

อายุขัย คำแปล 
น. การสิ้นอายุ, ความตาย; อัตรากำหนดอายุคน คือ มักนิยมกันว่ามนุษย์มีอายุขัยน้อยลงเป็นลำดับ เช่น นิยมว่าครั้งพุทธกาล ๘๐ ปีเป็นอายุขัยของมนุษย์ มาบัดนี้ ๗๕ ปีเป็นอายุขัยของมนุษย์เป็นต้น.

จากความหมายของพจนานุกรมดังกล่าว คำว่า “อายุไข” หมายถึง การตายตามอายุกำหนดที่ต้องนอนตายไปตามปกติ หรืออายุเฉลี่ย 

แสดงว่า การตายก่อนอายุเฉลี่ยตามปกติ  พวกนี้ถือว่า เป็นการตายก่อนอายุไข

แต่ในทางศาสนานั้น  การตายมันก็คือหมดอายุไขในโลกมนุษย์  ไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใดๆ มันก็หมดอายุไขบนโลกมนุษย์ทั้งสิ้น 

การที่จะไปเกิดที่ไหนนั้น มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

นายดอกบัวอธิบายว่า กรรมมาตัดรอน จึงหมดอายุไป ยมบาลไม่สนใจ มันก็ไม่ได้เป็นการตอบคำถามเหมือนกับอาจารย์เตี้ย 

คนที่สามใช้ชื่อว่า “whitenaga” พญานาคเผือก หรือพญานาคขาวก็ไม่รู้  เข้ามาตอบคล้ายๆ กับ นายดอกบัว ดังนี้

อายุไขไม่หมดแต่ตายก่อน เพราะกรรมหนักมาตัดรอน ส่วนใหญ่ที่เห็นจะไม่พ้นข้อปาณา

เคยรู้จักพี่ทหารคนหนึ่ง เค้าตายตั้งแต่อายุยังวัยหนุ่มเพราะชอบฆ่าสัตว์ป่า สัตว์แปลก เช่น งู นก ฯลฯ เอามาแกล้มเหล้ากิน (ได้ยินประมาณว่า เค้ายังไม่หมดอายุไข แต่กรรมมาตัดรอน)

คำตอบนี้ก็เหมือนกัน ไม่ได้ตอบปัญหาเหมือนกัน  แต่มีตัวอย่างเพิ่มเติม ก็ถือว่ายังพอใช้ได้

ที่ผมงงสุดๆ ก็คือ เจ้าของคำถาม ดันกลับมาอนุโมทนาแล้วบอกว่า “อนุโมทนาครับผม เข้าใจแล้วครับผม ขอบพระคุณครับผม

มันเข้าใจไปได้อย่างไรกันหนอนั่น.............

ผมขอบตอบบ้างดังนี้

1) ผู้ตั้งคำถามตั้งคำถามผิด เอาหมอดูเป็นมาตรฐาน แทนที่จะว่าหมอดูผิด
2) คนตอบก็เอาคำพูดที่พูดกันทั่วไปมาตอบว่า “กรรมมาตัดรอน” อายุไข
3) คำว่า “อายุไข” ในทางโลกที่หมายถึงการตายตามปกติโดยอายุเฉลี่ยของคนในยุคนั้น นำมาใช้กับเรื่องนี้ไม่ได้ 

ในทางศาสนาพุทธ “การตายไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใด ถือว่าหมดอายุไขของคนๆ นั้นแล้ว” ซึ่งอาจจะสั้นกว่าอายุไขโดยเฉลี่ยของคนในยุคนั้น

สาเหตุการตายที่กล่าวว่า “กรรมมาตัดรอน” มันเป็นตอบแบบกำปั้นทุบดินเกินไป  ไม่ได้ให้ความรู้อะไรเพิ่มเติม

ในทางวิชาธรรมกาย “การตาย” เกิดจาก “กรรมในอดีต”  ที่กำหนดมาอย่างนั้น  ถึงเวลาหมดอายุในโลกนี้  “ตายแน่ๆ”  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องตาย

ส่วนรายละเอียดของการตายนั้น ก็ว่ากันไป บางคนเป็นโรคตาย บางคนเกิดอุบัติเหตุตาย  บางคนก็นอนตายไปเฉยๆ ...

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989


14 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 พฤษภาคม 2555 เวลา 12:43

    ตอบไม่กระจ่างไม่เคลียร์แต่ว่าคนอื่นเคลียร์

    ตอบลบ
  2. ผมก็รอคุณมาบอกนี่แหละว่า มันไม่กระจ่างอย่างไร?

    ตอบลบ
  3. ดร. อย่าว่าเขาสิเดี๋ยวเค้า เสียใจ ผูกคอตายทำไง บาปกรรม 55+

    ตอบลบ
  4. อันนี้พูดตามความจริง เวลานักวิชาการเขียนอะไรออกไป บางเรื่องบางประเด็น เราไม่มีเวลาค้นคว้าถึงแหล่งต้นตอ

    จึงมีบางเรื่องที่ต้องสันนิษฐานกันบ้าง พูดอย่างชาวบ้านก็คือ "เดา" เอาบ้าง

    ดังนั้น ผมจึงอยากได้คนที่ชี้ข้อผิดพลาดให้ เพราะ ข้อเขียนที่เขียนรีบๆ อย่างในบล็อกนี้ ไม่ได้ถูกไปทุกเรื่อง

    แต่คนอ่านส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความเห็นไปที่งานเขียน เพ้อมั่ง ด่ามั่ง ให้ความเห็นแก้โรคจิตของตัวเองมั่ง

    มันก็ต้องมี "ด่า" กันบ้าง..

    ตอบลบ
  5. แต่ผมขอสรุปนะครับ ดร.ว่า ด่าได้มันมาก555555555+

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ20 กรกฎาคม 2556 เวลา 20:22

    ผมว่า... ความหมายของคำ คำที่ใช้สื่อ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องจริงจังอะไร ความหมายไม่ตายตัวแน่นอนหรอก สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดๆ คือ เรา ควรเอาพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไว้ในใจตลอดเวลา และไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรืออดีตอาจเคยทำโดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ก็ใช้วิธี ยอมรับในกรรมในความผิดของตน แล้วสร้างบุญกุศลเป็นประจำ ด้วยจิตตั้งใจ แม้เพียงแค่จิดสำนึกผิด ยอมรับผิด ก็เกิดพลังอำนาจในทางที่ดีแก่เราแล้ว

    ตอบลบ
  7. เรื่องอื่นไม่ว่าอะไร แต่เรื่องความหมายของคำ "ต้องจริงจัง" ผมเป็นนักภาษาศาสตร์ เป็นครูภาษาไทย ผมว่า ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี

    แต่ความหมายมันจะขึ้นอยู่กับบริบทด้วย

    ตอบลบ
  8. คุณที่เขียนแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ อ่านก็ยังงงเหมือนเดิม
    คุณบอกว่า สาเหตุการตายที่กล่าวว่า “กรรมมาตัดรอน” มันเป็นตอบแบบกำปั้นทุบดินเกินไป  ไม่ได้ให้ความรู้อะไรเพิ่มเติม
    แต่คุณก็เอาเนื้อแบบเดียวกัน ของกรรมมาตัดรอน มาต่อซ้ำอีก คำว่า กรรม ก็คือการกระทำที่ได้เคยทำ มันก็คือ กรรมในอดีต โดยที่ “การตาย” เกิดจาก “กรรมในอดีต” มันก็คือกรรมมาตัดรอน ไม่ใช่หรือ
    อย่างที่ประโยคนี้ที่คุณเอามาแนบว่า ในทางวิชาธรรมกาย “การตาย” เกิดจาก “กรรมในอดีต”  ที่กำหนดมาอย่างนั้น  ถึงเวลาหมดอายุในโลกนี้  “ตายแน่ๆ”  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องตาย
    คุณแค่เพียงขยายความให้มันยาวขึ้น ยังไม่กระจ่างเหมือนคนอื่นๆที่คุณว่าเค้าแหละ

    ไปเปิดดูเว็บอื่น แล้วเอาความคิดเห็นของคุณwit มา ที่ดูกระจ่างกว่า ว่า
    มันก็แล้วแต่เหตุและปัจจัยของแต่ละบุคคล บางคนตายก่อนอายุขัย(อันควร)ก็เพราะผลจากกรรมเก่าในอดีต(อาจเป็นได้ทั้งในชาตินี้หรือชาติก่อน)มาตัดรอน หรือ บางคนตายก่อนอายุขัยก็เพราะผลกรรมในชาติปัจจุบันนี่แหละ เช่น ไม่ใส่ใจรักษาสุขภาพ หรือ สร้างเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆขึ้นมา แต่บางครั้งก็อาจเป็นเพราะผลกรรมในอดีต จึงดลบันดาลให้จิตใจน้อมไปกระทำกรรมในลักษณะที่ทำร้ายตนเองก็เป็นได้

    อยากรู้ว่าคุณดึงมาจากไหน ช่วยแนบอ้างอิง เพื่อความกระจ่าง ที่คุณบอกว่า ทางศาสนาพุทธ “การตายไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใด ถือว่าหมดอายุไขของคนๆ นั้นแล้ว” ซึ่งอาจจะสั้นกว่าอายุไขโดยเฉลี่ยของคนในยุคนั้น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อ่านเพิ่มเติมคำตอบของคุณwitที่ http://larndham.org/index.php?/topic/40947-%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99/
      สำหรับคนที่ต้องการทราบคำอธิบายที่ละเอียด

      ลบ
    2. การเปลี่ยนแปลงชนิดที่ทำให้สิ่งที่เป็นเหตุปัจจัยของชีวิตหมดไป ก็ถือว่าเป็นความตาย ตามหลักความเชื่อในพุทธศาสนา ความเปลี่ยนแปลงของเหตุปัจจัยที่ทำให้ชีวิตหมดไป (คือตาย) อาจเกิดได้ในกรณีต่อไปนี้ (พระมหาบุญมี มาลาวชิโร, ๒๕๔๗; พระดุษฎี เมธังกุโร, ๒๕๔๔) ๑. สิ้นอายุขัย (อายุกขยมรณะ) คือ ตายเพราะสิ้นอายุ ซึ่งเป็นไปตามกฎธรรมชาติของสรรพสิ่งที่เกิดมา กล่าวคือ ทุกสิ่งตกอยู่ในกฎแห่งการเกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไป ชีวิตของมนุษย์ที่เกิดมานั้น ๒. สิ้นกรรม (กัมมักขยมรณะ) คือ ตายเพราะสิ้นกรรม กรรมนั้นคือการกระทำซึ่งมีผลสืบเนื่องตามมา (consequences) อาจเป็นกรรมที่ทำในอดีต ซึ่งอาจไกลออกไปจนถึงในอดีตชาติ หรืออาจเป็นกรรมที่ทำในปัจจุบัน ๓. สิ้นทั้งอายุและกรรม (อุภยักขยมรณะ) คือ ทั้งอายุขัยและกรรม สิ้นไปในเวลาเดียวกัน ๔. มีเหตุหรือกรรมอย่างอื่นมาตัดรอน (อุปัจเฉทมรณะ) ทำให้ชีวิตสิ้นไปกะทันหัน ทั้งที่น่าจะอยู่ต่อไปได้ ในกรณีนี้ ทั้งอายุและกรรมยังไม่หมด แต่เกิดเหตุทำให้เสียชีวิตกะทันหัน

      แหล่งข้อมูล:

      http://www.gotoknow.org/blog/teppalit/88302

      ลบ
  9. ข้อเขียนของคุณ...
    .......
    อยากรู้ว่าคุณดึงมาจากไหน ช่วยแนบอ้างอิง เพื่อความกระจ่าง ที่คุณบอกว่า ทางศาสนาพุทธ “การตายไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใด ถือว่าหมดอายุไขของคนๆ นั้นแล้ว” ซึ่งอาจจะสั้นกว่าอายุไขโดยเฉลี่ยของคนในยุคนั้น
    .......

    สำหรับข้อความ “การตายไม่ว่าจะตายด้วยสาเหตุใด ถือว่าหมดอายุไขของคนๆ นั้นแล้ว” ของผมนั้น ผมเขียนขึ้นมาเอง จะตอบว่า "ดึงมาจากสมองของผม มันจะน่าเกลียดไหม"

    ข้อเขียนนั้น ต้องการตอบปัญหาที่ว่า "อายุไขไม่หมด ทำไมตาย"

    ผมก็บอกว่า "คนที่ตายทุกคน อายุไขมันหมดทั้งนั้น" แต่อายุไขของคนตายนั้น มันสั้นกว่า "อายุไข" เฉลี่ยของมนุษย์ในยุคนั้น มันก็เลยดูเหมือนว่า "อายุสั้น" หรือ "อายุไขยังไม่หมด"

    การที่ผมเขียนอะไรลงไปแล้ว คนอ่าน "ไม่เข้าใจ" ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

    ก็ผมตั้งใจจะให้คนฉลาดๆ เขาเข้ามาอ่าน.....

    ตอบลบ
  10. มึนๆ คือว่าถ้าการตายก่อนอายุไขแบบที่หมอดูว่าไว้ไม่มีอยู่จริง ก็แปลว่า คนตาย ตายแล้วต้องไปเกิด
    แล้วพวกที่รอตัวตายตัวแทน ทำไมถึงไม่ได้ไปครับ

    แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แปลว่า ความเชื่อเรื่องผีตายโหง ที่ว่าคนตายก่อนอายุไขจะเฮี้ยน ก็ผิดด้วยใช่ไหมครับ หรือว่าเฮี้ยนเพราะเหตุผลอื่น เช่น โดนฆ่า แต่ไม่ได้รับความยุติธรรม เลยเฮี้ยน

    ตอบลบ
  11. 1- คนตายก็หมายความว่า "หมดอายุไข" ของเขาแล้ว จะด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม

    2- การจะไปเกิดทันที หรือต้องเป็นสัมภเวสีก่อน มันก็น่าจะมีเหตุปัจจัยจำนวนมาก ตรงนี้ ไม่รู้เหมือนก้นว่า มีเหตุปัจจัยอะไรบ้าง

    3- ความเชื่อใดๆ ไม่ว่าจะเป็นของคนๆ เดียว หรือคนส่วนใหญ่ มีส่วนที่จะไม่จริงทั้งสิ้น ก็มันเป็นความเชื่อ

    ตอบลบ