ชื่อบทความนี้
ความจริงผมอยากจะตั้งชื่อว่า “พระห่าๆ แบบนี้ก็มีด้วย” แต่เห็นว่าชื่อจะหยาบไปเล็กน้อย
เลยจึงต้องตั้งชื่อว่า “พระอหิวาตกโรค” แทน
สาเหตุก็เกิดจาก
ท่านผู้อ่านท่านหนึ่ง เขียนอีเมล์มาหาผมดังนี้
ตอนนี้ผมมีเรื่องให้เป็นเดือดเนื้อร้อนใจอยู่ไม่น้อย
คือคุณแม่ของผมชอบและรักในการดูดวงเป็นจิตใจ...ตระเวนดูไปหมด..
ล่าสุดได้มีโอกาสไปสนทนาธรรมกับพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นสายกรรมฐาน
ท่านเองได้เมตตาบอกว่า เดิมท่านนั้น ระลึกเรื่องราวในอดีตชาติได้..
และท่านได้เอ่ยบอกกับแม่และครอบครัวของเราว่า..พ่อของผมที่ท่านพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี
2554 นั้นคือการตายสละชีวิตแทนลูกชายคนกลาง คือตัวของผมเอง
หากพ่อไม่ตายตัวผมเองต้องตายไปเมื่อปลายปี...แต่นี่ที่ผมยังมีชีวิตอยู่
ก็เพราะคุณพ่อนั้นสละชีวิตตายแทนลูก
และกล่าวว่าคุณพ่อยังไม่รู้ตัวว่าตนตายแล้วและตอนนี้ต้องการจะให้ลูกชายคือตัวผมติดตามไปอยู่ด้วย..คือลูกชาย
(ตัวผม) จะได้ประสบกับอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต
โดยคุณพ่อได้ให้เหตุผลกับพระภิกษุรูปนี้ว่า ต้องการลดภาระครอบครัวให้กับคุณแม่..เพราะตอนนี้มีพี่ชาย
ผม และน้องสาว คุณพ่อเกรงว่าจะเป็นภาระการเลี้ยงดูของแม่...
ทิ้งท้ายว่า "อาตมาจะอธิบายให้ท่านเข้าใจ..และทางหนึ่งลูก (คือตัวผม)
จะต้องหมั่นกตัญญูปรนนิบัติคุณแม่ให้ดี..อาตมาจะเอาตัวนี้ไปปิดให้"
อ.มนัสครับ...เรื่องแบบนี้มีจริงหรือไม่ครับ อ.
สามารถตรวจสอบด้วยวิชชาธรรมกายให้ผมได้มั้ยครับ..อย่างน้อยๆ ก็ให้ครอบครัวของเราได้สบายใจว่า
เรื่องแบบนี้สามารถตรวจสอบได้...
ก่อนหน้านี้แม่ของผมท่านก็ไปดูมาหลายที่ ทำให้การใช้ชีวิตส่วนหนึ่งเป็นทุกข์เพราะการทำนาย..
ด้านหนึ่งของผมเองบอกแม่ว่า...การดูดวงของหมอดูนั้นน่าจะสร้างสรรค์กว่าการมาหยั่งชะตากรรมของมนุษย์ว่าจะตายวันตายพรุ่ง...
แต่กลับกัน...กลับทำให้เราคิดได้ว่า..ถ้าเกิดความตายคือพรุ่งนี้...วันนี้เราควรจะทำอะไร...วิชชาก็ยังไม่ได้...ภายภาคหน้าเราจะวนเวียนไปอย่างไร...
ดร. สามารถตรวจสอบได้มั้ยครับ เพราะเคยสนทนาว่า ดร.เดินวิชชาและตรวจสอบไปถึงผู้ที่ลับจากโลกไปแล้วได้อย่างแม่นยำ
โดยทั้งนี้ต้องมีรูปจริงชื่อพร้อมนามสกุล...
ดร.ครับในเวลาเช่นนี้
คนที่ยังมองไม่เห็นอะไรในกลางกายอย่างผมก็ไม่รู้จะหันหน้าไปถามใครดี... อยากให้
ดร. ได้กรุณาไขปัญหาเรื่องนี้ให้ผมทราบว่า
สรุปแล้วคุณพ่อของผมเป็นอยู่อย่างไรและการที่คนเราตายไปแล้วต้องการหรือประสงค์จะให้ผู้อื่นผู้ใดหรือใครติดตามไปด้วยได้จริงหรือเพราะตามหลักวิชชาแล้วกรรมใครก็กรรมมัน
ในครั้งแรกเลยนั้น
ผมตอบปัญหาไปดังนี้
1)
พระรูปนั้นโกหก ไม่จริงตามนั้น
ชีวิตของคนๆ หนึ่งนั้น เกิดจากการสร้างบุญบารมีของเขาล้วนๆ
ไม่มีใครตายแทนกันได้
จากการศึกษาวิชาธรรมกาย
กายตายของคนนั้น ตัวเขาเองเป็นผู้กำหนด ตายก่อนไม่ได้เด็ดขาด แต่ในกรณีที่ทำความดี
อาจจะทำให้อายุยืนยาวไปได้ แต่ตายก่อนไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าภาคมาร
หรือภาคพระ ไม่สามารถทำให้ใครตายก่อนอายุขัยของเขาได้
เรื่องของพ่อคุณ
ท่านหมดอายุขัยเท่านั้น
2)
ถ้าต้องการรู้เรื่องจริงๆ ต้องไปไปพบคุณลุงการุณย์
บุญมานุชที่จังหวัดจันทุบรี
วันเสาร์-อาทิตย์นี้ผมก็จะไปจันทบุรี ถ้ามีเวลาและโอกาสก็ไปด้วยกัน
3)
ถ้ายังไม่มีโอกาส ส่งรูปของพ่อคุณมา ผมจะไปถามคุณลุงให้ว่า ตายแล้วไปไหน ฯลฯ
ท่านผู้อ่านตอบมาดังนี้
อ.ครับ...ขอบคุณมาก...ตอนนี้ผมเป็นนิสิตฝึกงาน..แม่ของผมเชื่อเรื่องดวงชะตามาก...สักครู่ขับรถมากับหลานสาวท่านมาหาผมถึงที
รพ. ที่ผมฝึกงาน บอกว่าระวังตัวหน่อยนะลูกแม่เป็นห่วง ก่อนจะกอดแล้วลูบหัวแล้วกลับไป...
ผมจะส่งรูปให้ อาจารย์ฝากให้คุณลุงพิจารณาให้ว่าที่แท้แล้วพ่อเป็นอย่างไรเกิดใหม่หรือทุกสุขอย่างไร....ขอบคุณมากครับ...เป็นพระคุณอีกรอบจริงๆที่ผมได้รับจาก
อาจารย์ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน...ขอบคุณมากครับ...
ผมแนบไฟล์มาแล้วนะครับ .... ผมอยากขอความเมตตาจากคุณลุงฯและทีมงาน
ช่วยเมตตาตรวจตราว่าขณะนี้คุณพ่อทุกข์สุขอย่างไร...
ถ้าท่านได้ทุกข์ผมอยากให้คุณลุงและทีมงานเมตตาสอนวิชชาให้พ่อได้ธรรมะละเอียดๆ
เอาตัวรอดได้...คุณแม่ของผมท่านทราบเรื่องที่ผมขอความช่วยเหลือจาก อาจารย์แล้วนะครับ...ท่านเป็นกระตือรือร้นใหญ่...
อยากบอกพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงเราทุกคนดูแลกันเป็นอย่างดี..บุญทุกบุญที่เราทุกคนทำ..อยู่ทุกวันนี้เราอุทิศให้พ่อตลอด..และอยากให้พ่อน้อมใจ รับความเมตตาจากคุณลุงและทีมงาน.........
ดร.ครับขอบคุณมากๆครับ
ผมได้ตอบอีเมล์ไปดังนี้
อยากจะบอกเรื่องคนตายไปแล้วให้ทราบอย่างหนึ่ง
คนตายไปแล้วจะไม่คิดเหมือนเรา เพราะ เขาไปอยู่อีกภพหนึ่งแล้ว ดังนั้น
เรื่องเป็นห่วงลูกหลานอย่างที่เราคิด เขาไม่คิดอย่างนั้น
สำหรับเรื่องที่ผมจะถามคุณลุงกับวิทยากรท่านอื่นๆ
ก็คือ
1)
ตายไปแล้วไปไหน ตายเพราะอายุไขของตนเอง หรือตายแทนคุณ
2)
สำหรับการช่วยเหลือคุณพ่อของคุณนั้น ผมจะยังไม่ขอให้คุณลุงช่วย
เรื่องต้องขอบอกอย่างนี้
มีคนมาให้คุณลุงช่วย (การช่วยคือสอนคนตายให้เห็นดวงธรรมกายธรรม เขาก็จะไปสวรรค์ทันที
ผมสอนได้แต่คนเป็น คนตายสอนไม่ได้) แต่ไม่เคยมีญาติมาหาลุง หรือตอบแทนคุณลุง
หรือร่วมทำบุญกับลุงเลย
ผมจึงตั้งกติกาว่า
"ใครจะให้คุณลุงช่วยญาติ ต้องมาหาคุณลุงเอง"
แต่เท่าที่มีประสบการณ์มา
ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าผมเอารูปใครไปให้คุณลุงดู
คุณลุงจะช่วยเลย คือ พอได้คุย ได้ถามแล้ว
บางทีคุณลงบอก "ช่วยเขาเลย"
วันเสาร์-อาทิตย์นี้ผมก็มีรูปคนจะไปให้คนช่วยแล้ว
เขาเป็นดองกับผม เพิ่งตายไป
ท่านผู้อ่านตอบมาอีกครั้งหนึ่ง
ดังนี้
อ. ครับ ขอบคุณครับ เพียงแค่ อ.
นำรูปพ่อไปด้วยผมก็ขอบใจมากๆแล้ว...คุณแม่ของผมเองอ่านเมลล์นี้ หลังจากที่ผมบอกท่านว่าแม่ครับ...ผมจะทำบุญไปที่
ธ.กรุงไทยนะครับ ทางโน้นเค้าเผยแผ่วิชชาธรรมกายเหมือนกัน...
แม่แปลกใจแล้วถามว่าที่ไหนหรอลูก...ผมเลยตอบว่า ที่ทีมงานของ
ดร.ที่ผมเล่าให้แม่ฟัง...ท่านเลยอ๋อ....
อ.
ครับส่วนที่ว่าเราต้องไปพบคุณลุงเองนั้นผมกับแม่อยากไปเป็นที่สุด...ด้วยภารกิจค้าขายที่ไม่สามารถปิดร้านได้เลยรออยู่ติดๆ
เลยกะจะหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อหยุดสักสามวันเดินทางไปกลับเพื่อปฏิบัติธรรม
ผมเองบังเอิญเจอพื้นที่เล็กๆ ที่หัวบล็อกของอาจารย์ที่ระบุเลขที่บัญชีของ
ธ.กรุงไทยไว้ก็กะจะร่วมบุญกับท่านอยู่จำนวนหนึ่ง
เพื่อที่ว่าเราเองขอความเมตตาท่านให้อุตส่าห์ตรวจสอบว่า พ่อเป็นยังไงทั้งๆ ที่เราไม่ได้ไปเอง...
อย่างน้อยๆ ทรัพย์บางส่วนของเราก็ช่วยในงานเผยแผ่วิชชาของหลวงพ่อ
ช่วยในส่วนเล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง..
ถูกต้องอย่างที่ อาจารย์บอกนะครับ
พอบางทีช่วยแล้วกลับไม่มีญาติหรือใครฝ่ายใดมาช่วยเกื้อกูลตอบแทนเลย
เพราะอย่างน้อยลุงก็นำเวลาทำวิชชาสู้รบปรบมือมาประกอบกิจช่วยเหลือสัตว์โลกเช่น กายละเอียดเหล่านั้น...
แต่อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะครับ...ผมเองตั้งใจไว้ว่าเงินที่ใช้ในเดือนนึงของชีวิตนิสิตมหาวิทยาลัย
ผมจะทำบุญเผยแผ่วิชชากับท่านอยู่เรื่อยๆ..มากน้อยตามที่เก็บหอมรอมริบและจัดการบริหารเป็นส่วนๆ.
แต่ที่แน่ชัดคือเร็ววันนี้ คงมีโอกาสผ่าน ธ.กรุงไทย
ผมตั้งใจไว้ดีแล้วล่ะครับผมจะช่วยเกื้อกูลหน่อพุทธางกูรแม้จะไม่มากมายนักด้วยความเคารพบูชาครูบาอาจารย์ครับ...
ดร.ครับผมจะไปแน่แต่จะไม่ระบุไว้ก่อนถึงทีจะไปจะติดต่อไปนะครับคงอีกสักพักใหญ่ๆเลย..เพราะถ้าระบุไว้โดนขวางแน่เลย..พอขวางได้ก็จะขวางอีกในคราวถัดมา...ไปแน่นอนครับ...
โดยสรุป
คุณลุงได้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ผมจึงตอบอีเมล์ไปดังนี้
คุณพ่อของคุณตายเพราะหมดอายุขัยของท่าน
ไม่ได้ตายแทนคุณ การตายแทนกันเป็นไปไม่ได้
คุณพ่อคุณบอกกับคุณลุงว่า
"วันนี้เป็นวันทุกข์วันสุดท้าย" ไม่รู้ท่านรู้เรื่องได้อย่างไร
ท่านมารอที่ร้านที่ถวายอาหารทะเลแล้ว
ตกลง
ได้ช่วยคุณพ่อคุณเรียบร้อยแล้ว
คำพูดของพระนั้นไม่จริงทั้งหมด...
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น