บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

“น้องพอส” ตายแล้วไปไหน ทำไมถึงตาย....


“น้องพอส” ตายแล้วไปไหน ทำไมถึงตาย....

“น้องพอส” คือ นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ อายุ 18 ปี เป็นอาสาสมัครดับเพลิง เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีระเบิดภายในบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด 

บริษัท หมิงตี้เคมีคอล เป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก ในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 

เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.09 น. ของวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา

ในขณะที่ทำการดับเพลิงอยู่ สารเคมีเกิดการรั่วไหลออกมาทำให้ไฟลุกโหมขึ้นอีกครั้ง ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. 

ทำให้อาสาสมัครดับเพลิงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน

“น้องพอส” อายุเพียง 18 ปี  ถือว่า อายุน้อยมาก แล้วมาตายด้วยไฟไหม้ ขณะที่ไปกระทำความดีคือ ไปช่วยดับไฟ 

จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า..... ตายแล้วไปไหน ทำไมถึงตาย....

ผมและคณะจึงเดิน #วิชาธรรมกาย  คำศัพท์ "เดินวิชา" เป็นศัพท์เฉพาะของพวกเรา ก็ปฏิบัติธรรมนั่นแหละ  

เราต้องเดินวิชา ๑๘ กายอนุโลม-ปฏิโลมอย่างต่ำๆ 7 เที่ยว ยิ่งมากยิ่งดี  แล้วนำกายธรรมพระอรหัตละเอียดไปอยู่ที่ตีนเขาพระสุเมรุ

พอนึก..ก็ไปถึงเลย...  ตรงนี้ จึงมีการตีความไปว่า "จิตเดินทางเร็วกว่าแสง"  

ถ้าจะให้ผมฟันธงนะ...  เราเอาไปเปรียบเทียบอย่างนั้น มันพูดยาก มันไม่ควรที่จะไปเปรียบเทียบกัน

ในทางด้าน "จิต"  ไม่มีแผนที่ ไม่มีระยะทาง  พอนึก..ก็ถึงเลย ไม่ว่าจะใกล้-ไกลขนาดไหน  พูดให้เท่ห์ๆ แบบดัดจริตนิดหน่อยก็คือ "จิต" ไม่มี space and time...

เมื่อไปถึงเราก็เรียนคนตายมา..... 

คนที่ตายไปแล้วจะมาทุกคน  ถ้าไม่มา แสดงว่า "ไปเกิดแล้ว"  หรือ "ยังไม่ตาย" 

“น้องพอส” มาในกายสีดำๆ  ซึ่งก็เป็นปกติ เพราะ การตายด้วยอายุน้อยๆ อย่างนี้ แสดงให้เห็นชัดๆ ว่า "กรรมมาตัดรอน" 

เราก็ถามก่อนว่า... รู้ตัวว่าตายแล้วหรือยัง?  มีผู้ตายจำนวนมาก ภายใน 7 วันแรก จะไม่รู้ว่า "ตัวเองตายมาแล้ว" 

สำหรับ “น้องพอส” นี่ รู้ว่าตัวเองตายแล้ว

เมื่อถามถึงกรรมเก่า ที่ส่งให้มาตายแบบนี้   ก็ได้ผลมาดังนี้..

*-*-*-*-*

-- ฆ่าสัตว์จำนวนมาก จำนวนหนึ่งเป็นการเผาทั้งเป็นโดยความคึกคะนอง

-- เคยเป็นทหารหน่วยวางเพลิง แล้วก็ไปเผาทหารฝ่ายข้าศึก

*-*-*-*-*

ในการช่วยคนตายนั้น.. อันดับแรกเลยก็คือ.. ให้อนุโมทนาบุญกับพวกเรา  

ตอนที่เราไปสอนนั้น เราจะไปด้วยกายจักรพรรดิ, กายมนุษย์พิเศษ ไม่ใช่เอากายฝันไป  กายธรรม กายมนุษย์พิเศษนั้น กายสว่างใสมากๆ เห็นไปทั่วตีนเขาพระสุเมรุ

เมื่อบอกอนุโมทนาบุญ คนไทยส่วนใหญ่จะทำได้ ยิ่งเป็นชาวพุทธแล้ว ยิ่งง่าย 

พออนุโมทนาบุญแล้ว  ก็สอน #วิชาธรรมกาย ให้กับเขา   สอนเหมือนคนเป็นนี่แหละ แต่คนตายสอนง่ายกว่า 

สอนแล้ว กายของ “น้องพอส”  ก็ขาวขึ้น ใสขึ้น แต่ยังอยู่ชุดเดิม แสดงว่า "ยังไม่ได้ขึ้นสวรรค์" ต้องไปสอนซ้ำอีก

คนตายแล้วเรียนวิชาธรรมกาย อย่างดีที่สุดก็คือ "สวรรค์ชั้น ๑"  เมื่อหมดบุญแล้ว ก็ต้องไปตามกรรม แล้วก็มาเกิดใหม่อีก 

ดังนั้น.............

ควรเรียนเสียตั้งแต่ก่อนตาย อย่าไปรอเรียนตอนตายแล้ว  ใครอยากจะเรียนก็ติดต่อมาได้เลย

เราสามารถสอนกันทางไลน์ได้ ตั้งแต่เบื้องต้น จนถึงวิชชาธรรมกายชั้นสูง

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989

อยากเลิกบูชาไอ้ไข่ต้องทำอย่างไร?


"อยากเลิกบูชาไอ้ไข่ต้องทำอย่างไร?" เป็นหัวข้อกระทู้ถามในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง เนื้อหาของกระทู้ก็เป็น ดังนี้ 

*-*--*-*-*

ตั้งแต่เอามาเรารู้สึกว่า ที่บ้านเรามีแต่เรื่องแย่ๆ ค้าขายไม่ได้กำไร คนในครอบครัวเจ็บป่วยบ่อยครั้ง โชคลาภไม่เคยมี ทั้งๆ ที่แต่ก่อนโชคลาภมีมาตลอด เรารู้สึกไม่สบายใจที่บูชาไอ้ไข่ค่ะ เลยอยากเลิกบูชา

ช่วยขอคำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ ????

*-*--*-*-*

ก่อนจะแนะนำวิธีปฏิบัติ ขอกล่าวถึง "ไอ้ไข่" สักนิดหนึ่ง เพื่อให้เป็นที่เข้าใจ

*-*--*-*-*

ไอ้ไข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คือ รูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบ ที่ตั้งอยู่ในศาลาวัดเจดีย์ เชื่อกันว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่

*-*--*-*-*

รูปเคารพที่สร้างด้วยไม้นั้น จะมี "บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์" น้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับรูปเคารพที่สร้างรัตนชาติ หรือโลหะ

รูปเคารพของคนธรรมดา จะมี "บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์" น้อยมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับรูปเคารพของพระภิกษุ หรือของพระพุทธเจ้า 

ไอ้ไข่วัดเจดีย์เป็นเพียงเด็กวัด "ตัวของรูปเคารพ" จึงแทบไม่มีความศักดิ์สิทธิ์อะไรเลย  

ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ อิทธเดช เป็น "เรื่องเล่า" ที่สร้างขึ้น เพื่อการขายไอ้ไข่เท่านั้น 

สิ่งที่น่ากลัว สำหรับไอ้ไข่ก็คือ 

*-*--*-*-*

มีมารอยู่ข้างใน

*-*--*-*-*

การที่นำเอา "มาร" ไปเข้าบ้าน ความฉิบหายวายป่วงจึงมาเยือน อย่างที่เจ้าของกระทู้เขียนมา

ถ้าถามว่า "ของไม่ดี จะดังได้อย่างไร???

คำตอบก็คือ "มันเป็นวาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา"  วาทกรรมในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้นเมื่้อเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เช่น สมัยจตุคามรามเทพ เป็นต้น

คนไทย "กำลังใจตกต่ำ" ก็หาที่พึ่งใหม่ๆ บ้าง  คนอีกกลุ่มหนึ่งก็ต้องการเงิน  มันก็เลยสมประโยชน์กัน 

อีกสักพักหนึ่ง ก็จะมีคนมาถามว่า "จะทิ้งไอ้ไข่อย่างไรดี"

คราวนี้ก็มาถึงคำตอบแล้ว...........

ก็เอาไอ้ไข่ใส่ถุงดำ มัดให้เรียบร้อย เอาไปทิ้งถังขยะ เดี๋ยวพนักงานเขาก็มาเอาไปทิ้งต่อให้เอง

รับรองไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทางร้ายแน่นอน  ชีวิตจะมีแต่ดีขึ้น 

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989

ภาพถ่ายหัวขาดของน้อง วิธีแก้เคล็ดยังไงครับ


ภาพถ่ายหัวขาดของน้อง วิธีแก้เคล็ดยังไงครับ

เป็นกระทู้ถามในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง เนื้อหาของกระทู้ สรุปได้ดังนี้

*******

เป็นเรื่องของ youtuber ที่ทำเรื่องเกี่ยวกับผี คณะทำงานในกลุ่ม ถ่ายภาพของคณะของตัวเองคนหนึ่ง "ไม่มีหัว"  นอกจากจะถ่ายภาพไม่มีหัวแล้ว สันนิษฐานว่า "มีคนไม่เห็นหัวของเขาด้วย" ตอนที่ไปซื้อของที่  7-11 เลยมาถามวิธีแก้เคล็ด

*******

ขอตอบแบบฟันธงเลย.... "มีโอกาสตายสูงมาก" 

เมื่อปลายปี 2562  "เอ๋ซ่า ล่าผีเฮี้ยน" นักล่าผีชื่อดัง ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก็เพราะไปทำรายการทำนองนี้ ที่จังหวัดอ่างทอง

ผีเจ้าที่ท่านแค้นมาก ตามมาหลอกหลอนจนกระทั่งรถเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต

เรื่องนี้ ผมและคณะสัมภาษณ์ทั้ง "ผู้ตาย" และ "ผีเจ้าที่" 

"ผู้ตาย" ทั้งที่ตายไปแล้ว ยังมีความหวาดกลัวอยู่

"ผีเจ้าที่" ตอนที่ไปขอสัมภาษณ์ยังโกรธแค้นอยู่เลย 

ถ้าถามว่า "ผีมีพลังพอที่จะฆ่าคนได้จริงหรือ?"

คำตอบก็คือ "จริง"  ผีก็เหมือนคนนั่นแหละ

เราจะเห็นข่าวว่า "มีคนไล่ยิงคน ไล่เอามีดแทงคน" จนคนตายไปเป็นสิบๆ ราย  

คนทำได้ ผีก็ทำได้อย่างเดียวกัน และก็เช่นเดียวกัน  

เขาทำไม่ได้กับทุกคน  ทำได้เฉพาะกับบางคนเท่านั้น 

พวกที่ถูกกระทำจนเสียชีวิต น่าจะถึงคราวเคราะห์ของพวกเขาด้วย 

ประเด็นในข่าวนั้น ถ้ามาถึงผมได้ ก็มีโอกาสรอดสูง เพราะ ผมเป็นผู้ "เชี่ยวชาญในการต่อรองกับกายละเอียด" เป็นอย่างมาก 

ขนาดโกรธแค้นจนตัวสั่น น้ำตาร่วงต้องการให้ตายสถานเดียว  ผมยังไกล่เกลี่ยให้ยกโทษให้กันได้

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989