เนื้อหาข่าวย่อๆ ก็อ่านกันเลย เป็นดังนี้
วันนี้ (4 ต.ค.) ที่วัดวัดอุปนันทาราม
(วัดด่าน) อ.เมือง จ.ระนอง ได้จัดให้มีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.อรวี สำเภาทอง
หรือน้องแอปเปิ้ล อายุ 18 ปี ซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายแทงกว่า 17 แผลจนเสียชีวิต
โดยมีนายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง
และมีหน่วยงานราชการทั้งภาครัฐ และเอกชน ญาติ และเพื่อนๆ
นักเรียนโรงเรียนสตรีระนอง เข้าร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
แต่ขณะที่จะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ
ได้มีเด็กหญิงสาวชาวพม่าที่มาช่วยงานศพ เกิดมีอาการชัก และร้องเรียกหาแม่
และพี่สาวกลางงานศพ พร้อมโผเข้ากอด แม่พี่สาวของ น.ส.อรวี สำเภาทอง
หรือน้องแอปเปิ้ล และร้องไห้อย่างหนัก
พร้อมตะโกนด่าอย่างเกี้ยวกราด
ซึ่งญาติพยามยามสอบถามถึงคนที่ทำร้ายน้องแอปเปิ้ลจนเสียชีวิต
โดยหญิงสาวพม่ารายดังกล่าวได้บอกว่าคนชื่อ
แฟง เป็นคนฆ่าเค้าตาย พร้อมกับเพื่อนชายอีก 5 คน และวิ่งออกไปกลางงานศพโดยบอกว่า คนเหล่านี้ยังอยู่ในงานศพ
และมีส่วนพัวพันในการตายของน้องแอปเปิ้ล
จากการสอบถามแม่ของเด็กหญิงคนดังกล่าว
ทราบว่า เป็นชาวพม่าพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า
แต่มาช่วยในงานศพน้องเปิ้ล
โดยมีหน้าที่เฝ้าศพน้องแอปเปิ้ลในตอนกลางคืน
และไม่สามารถพูดภาษาไทยได้
แต่ตอนเกิดเหตุการณ์วิญญาณของน้องแอปเปิ้ลเข้าสิงสามารถพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจน
หลังจากมีการพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.อรวี
สำเภาทอง หรือน้องแอปเปิ้ล จนเสร็จสิ้นพิธี
เด็กสาวชาวพม่าคนดังกล่าวก็มีอาการสงบลง
ข่าวนี้ มีวิดิโอประกอบด้วย
ใครสนใจในรายละเอียดก็ไปอ่านข่าวได้โดยตรง
จากเนื้อข่าวสรุปได้ดังนี้
1- น้องแอปเปิ้ล อายุ 18 ปี ถูกกลุ่มคนร้ายแทงจนเสียชีวิต
2- ในวันเผา น้องแอปเปิ้ลมาเข้าสิงผู้หญิงพม่า
มาบอกเกี่ยวกับคนที่ฆ่าตัวเขา
3- คนที่ถูกน้องแอปเปิ้ลเข้าสิงพูดภาษาไทยไม่ได้
แต่ตอนถูกสิงด่าเป็นภาษาไทย
เรื่องทำนองนี้ ผมเคยเขียนไปบล็อกหนึ่งแล้วชื่อ “ผีแฉผัวเป็นคนฆ่า” ใครสนใจก็คลิกเข้าไปอ่าน
วันนี้จะอธิบายเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า “เรื่องทำนองนี้”
คนไทยเชื่อกันอยู่เป็นธรรมดา จากข่าวจะเห็นว่า คนไทยไม่ได้แตกตื่นอะไร นอกจากจะไม่แตกตื่นแล้ว ยังมีการซักถามผีด้วย
เรื่องนี้ พวกที่ที่เชื่อวิทยาศาสตร์จะกล่าวหาว่า “งมงาย”
โดยที่พวกนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่า “มันนั่นแหละงมงายตัวจริงเสียงจริง”
พวกนี้ ไปเชื่อวิทยาศาสตร์อย่างงมงาย หรือไอ้พวกงมงายวิทยาศาสตร์
คิดว่า “อะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ในทางวิทยาศาสตร์ไม่จริงทั้งหมด”
ในแวดวงวิชาการปัจจุบัน เขาไม่ให้ทำแบบนั้นแล้ว วิทยาศาสตร์มันยังค้นความจริงแท้
หรือความจริงสูงสุดไม่พบ
จะเอาวิทยาศาสตร์ไปเป็นเกณฑ์มาตรฐานว่า สิ่งโน้นไม่จริง
สิ่งนี้ไม่จริงไม่ได้
เอาเรื่องในข่าวนี้เลยก็ได้
คนที่พูดภาษาไทยไม่ได้ เวลาผีเข้าสิงทำไมพูดได้ ในข่าวนี่เขาว่า
ด่าเป็นภาษาไทยเสียด้วย
เรื่องนี้ ขออธิบายในทางวิชาธรรมกายดังนี้ ขอให้อ่านให้ดีๆ
และจะรู้ว่าวิชาธรรมกายเป็นสากลจริง และเป็นวิชาการจริง
การมาเกิด การเข้าสิงคน การพูดสื่อสารกับกายละเอียดต่างๆ
ใช้หลักการเดียวกันคือ วิญญาณที่จะมาเกิด/ผี/เรา จะต้องเขาไปตามฐานของใจ
เอาสั้นๆ ก็คือ ปากช่องจมูก (หญิงซ้าย-ชายขวา) เพลาตา/หัวตา (หญิงซ้าย-ชายขวา) จอมประสาท/กลางหัว และไปฐานที่ 7 เหนือระดับสะดือ 2 นิ้วมือ
แล้วเอาดวงธรรมของวิญญาณที่จะมาเกิด/ผี/เรา “ซ้อนให้เป็นดวงเดียว” กับอีกฝ่ายหนึ่ง
ตอนนี้ขออธิบายเฉพาะการเข้าสิง
เมื่อดวงธรรมซ้อนเขากันสนิทแล้ว
ฝ่ายที่เข้าไปก็ยึดร่างกายของฝ่ายที่ถูกเข้า
เหมือนกับเป็นร่างกายของตัวเองเลย
ทำอะไรก็ได้ ตามที่ต้องการเลยทีเดียว
จากในข่าว
คนพม่าที่พูดภาษาไทยไม่ได้ สามารถด่าเป็นภาษาไทย แสดงความโกรธเคืองที่ถูกฆ่าได้
ในกรณีที่ถูกสิง หรือการทรงเจ้าเข้าผี วิญญาณจะเอาเข็มแทงตัว แทงปาก
แทงแก้มได้เลย บางคนก็ไปปีนบันไดมีด
ลุยไฟ
นั่นก็เป็นอิทธิพลของวิญญาณที่มาเข้าสิง
อาจจะมีคนขี้สงสัยถามว่า “แล้วทำไม
คนถูกฆ่าทั้งหลาย วิญญาณจึงไม่มาเข้าสิงแบบนี้” ตำรวจจะได้ทำงานน้อยลง
คำตอบก็คือ “มันทำไม่ได้ทุกคน
ที่ทำได้ถือเป็นกรณีพิเศษ”
ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมบางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้
แต่ส่วนใหญ่แล้วจากที่สังเกตมา
วิญญาณที่ทำได้ มักจะเกิดความโกรธแค้นจากการถูกฆ่า
ขอแถมการสื่อสารกับกายละเอียดจำพวกเทวดา หรือสูงกว่านั้น
ในการฝึกปฏิบัติธรรมตรมวิชาธรรมกาย
เราสามารถจะเอากายละเอียดของเราไป ทัวร์นรก สวรรค์ พรหม อรูปพรหม
หรือแม้แต่อายตนะนิพพานก็ได้
กายมี 18 กาย
จะไปไหนก็ต้องเอากายที่เหมาะสมกับสถานที่นั้นๆ ไป เช่น สวรรค์เอากายทิพย์ไป พรหมเอากายพรหมไป อายตนะนิพพานเอากายธรรมไป
นรกนี่ ก็ต้องเอากายธรรมไป
เมื่อไปพบกายละเอียดต่างๆ
เราไม่สามารถคุยกันอย่างมนุษย์ได้เลย
ต้องเอาใจของเราเข้าไปตามฐาน แล้วเอาดวงธรรมของเรากับของกายละเอียดซ้อนกัน
เมื่อซ้อนกันสนิท เป็นดวงเดียวกันแล้ว ก็สามารถพูดคุยกันได้
ดวงธรรมของแต่ละคน แต่ละดวงวิญญาณนี่ ถึงแม้จะกลมเหมือนกัน
แต่ไม่เหมือนกันเลยนะครับ ต่างกันที่ขนาด
ความละเอียด และความสว่างใส
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น