ผีสางเทวดา: ผีช่วยผู้โดยสารเครื่องบิน

คิดว่าท่านผู้อ่านคงได้ข่าวเครื่องบินแอร์บัสของการบินไทย เกิดอุบัติเหตุไถลออกจากทางวิ่ง เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ในขณะที่ลูกเรือทั้งหลาย หนีเอาตัวรอดไม่ได้ห่วงผู้โดยสารเลยนั้น กลับมีสาวแอร์โฮสเตสที่แต่งกายด้วยชุดไทยห่มสไบเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่พยายามให้ความช่วยเหลือ

ปัญหาที่เกิดขึ้น จนเถียงกันจนกระทั่งขนหัวลุกก็คือ แอร์โฮสเตสการบินไทย ไม่ได้แต่งกายชุดอย่างนั้น แอร์การบินไทยสวมชุดยูนิฟอร์มสีม่วง เสื้อเเขนสั้น กระโปรงสั้น

แล้วใครมาช่วยผู้โดยสาร ขณะที่พนักงานการบินไทยหนีเอาตัวรอดกันหมด

จากการศึกษาวิเคราะห์เจาะลึก ผมก็พบว่า พื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมนั้น ผีสางนางไม้มีเป็นจำนวนมาก ไม่น้อยกว่าผู้โดยสารเครื่องบินเลย

1) ศาลเจ้า

พื้นที่บริเวณหนองงูเห่า ก่อนก่อสร้างสนามบินมีศาลเจ้าอยู่เกือบ 3,000 แห่ง บางส่วนเป็นสุสาน คิดดูเอาเองว่า จะมีผีสางนางไม้ ผีดี ผีเลวอยู่มากขนาดไหน

2) เสาผีสิง

เสาต้นนี้ตั้งอยู่กลางห้องคลังเก็บของศุลกากร ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ

ลือกันว่า หลังเปิดใช้สนามบินได้ไม่นานปรากฏว่าพนักงานที่อยู่เวรกะกลางคืน หลายคนเห็นวิญญาณผู้หญิงผมยาวประบ่าเดินไปมาในห้องนี้กันบ่อยๆ

จนสุดท้ายต้องทำพิธีเซ่นไหว้กัน (บ้างก็ขอหวย) ทั้งนี้ เชื่อกันว่าหญิงสาวที่สิงอยู่ในเสาต้นนี้นั้น ถูกฆ่าข่มขืนเเละโบกปูนทับ

บางคนก็เล่าว่า เป็นคนงานสาวชาวพม่าต่างหากที่พลัดตกลงไปในแบบหล่อ ก่อนจะโดนเพื่อนร่วมงานเทปูนซีเมนต์ทับจนตายทั้งเป็น!!!!!!

ส่วนผมสันนิษฐานว่า คงเป็นเสาตกน้ำมัน แล้วมีนางไม้สิงอยู่มากกว่า เพราะ บ้านผมที่จังหวัดชัยนาท เสาตกน้ำมันทุกต้น

3) เจ้าที่

มีเรื่องเล่าดังนี้

จำได้ว่าระหว่างพิธีทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2549 ได้นิมนต์พระ 99 รูป สวดพระปริตรและสวดกัมมวาจา 8 ทิศ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ ที่อยู่รอบบริเวณสนามบิน

ระหว่างพิธีเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ระหว่างที่พระสงฆ์กำลังสวดพระพุทธมนต์ พนักงานตรวจค้นวัตถุระเบิดรายหนึ่งของบริษัทล็อกซเล่ย์ ซึ่งรับสัมปทานงานตรวจค้นวัตถุระเบิดในสนามบิน

อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการตัวสั่นเหมือนผีเข้าในช่วงที่ก้มลงกราบพระ ใบหน้าบิดเบี้ยวพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ จากนั้นก็นั่งหลังงองุ้มเหมือนคนแก่

พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่าเป็นพ่อปู่ชื่อมิ่ง และบอกว่าไม่เคยมีใครสนใจเลย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และขอให้ตั้งศาลเพียงตาให้ เพราะไม่มีที่อยู่ จะตั้งจุดใดก็ได้ แต่ถ้าไม่ตั้งศาลให้ จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายปั่นป่วนมากกว่านี้

เมื่อพระรูปหนึ่งที่ทำพิธีสวดมนต์อยู่รับปากว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตั้งศาล พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อปู่มิ่ง ชายคนดังกล่าวก็เป็นลมหมดสติล้มลงทันที จากนั้นไม่นานชายคนนั้นก็กลับมาเป็นปกติ

แล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งน่าจะเป็นผลิตผลของวิทยาศาสตร์ และไม่น่าจะมีเรื่อง “ไร้สาระในทางวิทยาศาสตร์” เกิดขึ้น

ก็ปรากฏว่า พื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิมีการตั้งศาลสำคัญรวมทั้งหมด 16 แห่ง เพื่อให้พนักงาน ทอท. และบริษัทอื่นๆ ที่เข้ามาใช้พื้นที่เคารพและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ทอท.มีการไหว้บวงสรวงเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว โดยจะไปสักการะด้วยเครื่องบูชาต่างๆ ในทุกวันพฤหัสบดีของเดือนที่ไม่ตรงกับวันพระ

เรื่องนี้ ถ้าพูดกันในทางวิชาการ เป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี เครื่องบินนั้น เป็นผลิตผลของวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หรือเรื่องลี้ลับอย่างนี้ แต่ปรากฏว่า สนามบินของไทย มีศาลเต็มไปหมด

ผมเชื่อเรื่องเหล่านี้ และเชื่อว่า “เจ้าที่” ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิงคงเป็นห่วงผู้โดยสาร จึงเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้ทำหน้าที่ดีกว่าแอร์ทั้งหลาย เพราะ หนีเอาตัวรอดไปก่อนแล้ว

เหตุการณ์นี้ ก็เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งของปรากฎการณ์ “พุทธ-ผี-พราหมณ์” ในเมืองไทย คือ ขอให้ศักดิ์สิทธิ์เหอะ กูนับถือหมด