บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พิมพวดี สื่อวิญญาณ





เรื่องของคนตายไปแล้ว หรือผีที่มาสื่อสารกับคนยังไม่ตาย ที่น่าจะเป็นที่รู้จักกันมาก และไม่ค่อยมีใครที่จะกล้าโจมตีหรือด่ากลับ น่าจะเป็นเรื่องของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล

เรื่องของด.ญ. พิมพวดี โหสกุลนี่ มีหลักฐานมากมาย ทั้งพยานบุคคล และพยานวัตถุ  บุคคลก็ล้วนแต่เป็นคนมีชื่อเสียง มีการศึกษา และเป็นคนรวยเสียด้วย

เรื่องที่เอามาเล่าต่อกัน ก็เพื่อต้องการให้ความจริงปรากฏเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะหาเงินหาทอง หรือหลอกลวงประชาชน

เรื่องของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลนี่ เผยแพร่กันทั้งเป็นหนังสือ ดังภาพด้านบน รายการทีวีรายการก็เอาไปออก  ใน youtube ก็มีการทำเผยแพร่ในหลายเวอร์ชั่น

สำหรับผมนั้น จะเขียนภาคต่อจากการเล่าของคนอื่นๆ ซึ่งยังไม่มีใครเล่ามาก่อน.... 

ขอทบทวนเรื่องสั้นๆ พอให้รู้เรื่องราว ดังนี้

ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล ในชาติล่าสุด เป็นลูกคนสุดท้อง และเป็นผู้หญิงคนเดียว เกิดเมื่อ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2493 บิดาคือ นายเสียง โหสกุล และ มารดานางสมพร พัฒนวิบูลย์ โดยมีพี่น้องรวมกัน 5 คน

ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลป่วยเป็นไข้เลือดออก เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริรราช และเสียชีวิตในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2502  อายุในชาตินี้ 9 ปี 9 เดือน

นายเสียง โหสกุล ได้สร้างศาลาชื่อ "พลับพลาพิมพวดี" ไว้สำหรับตั้งศพของบรรดาญาติโยมทั่วไปในวัดมกุฎกษัตริยารามในปี พ.ศ. 2504  ในศาลามีภาพถ่ายของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล

จะเห็นว่า พ่อแม่ของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลเป็นคนรวยมาก รวยขนาดที่ว่าสร้างศาลาในวัดเพื่อเป็นที่ระลึกถึงลูกได้  นี่เป็นหลักฐานทางด้านวัตถุ

หลังจาก ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล ตายไปแล้ว วิญญาณของแก อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นสถานที่ตายมากกว่าอยู่ที่ศาลา "พลับพลาพิมพวดี" 

แกจะไป "พลับพลาพิมพวดี" เฉพาะตอนที่มีการทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้เท่านั้น

บุคคลที่ทำให้เรื่องของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลโด่งดังขั้นมาคือ นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ  นายแพทย์อาจินต์นี่ ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล 

พี่ชายของท่านนายทวี บุณยเกตุ คือ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยนะครับ  ระยะสั้นๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ ท่านป่วยด้วยโรคปวดประสาทสมองเส้นที่ห้า เข้าโรงพยาบาลศิริราชเมื่อปี พ.ศ. 2504  หลังจาก ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2 ปี

เมื่อชาติที่แล้ว ด.ญ. พิมพวดีเป็นลูกของนายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ  ด.ญ. พิมพวดีในชาติดังกล่าว จมน้ำตายอายุประมาณ 10 กว่าขวบ

ทั้ง 2 ชาตินี่ ด.ญ. พิมพวดีเป็นผู้หญิงทั้งคู่  และตายตั้งแต่ยังเป็นเด็กทั้ง 2 ชาติ  

นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุชาติที่แล้วมีอาชีพเป็นราชมัล เคยไปบีบศรีษะผู้ต้องหาตาย ทั้งๆ ที่เขาไม่ผิด  ชาตินี้จึงต้องมาใช้กรรมด้วยโรคปวดประสาทสมองเส้นที่ห้า

การผ่าสมอง เพื่อดึงเส้นประสาทที่ปวดออก โดยไม่วางยาสลบ  แกก็ปวดจนสลบไปเอง คิดเอาเองว่า มันทรมานขนาดไหน

ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลได้เข้าไปช่วยให้นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุหายปวด และเรื่องก็ดังขึ้นมาจนกระทั่งนายเสียง โหสกุล ไปเยี่ยมนายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ เพื่อให้ดูรูปภาพของเพื่อนๆ และด.ญ. พิมพวดี โหสกุล

นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุก็ชี้ถูกว่า ภาพไหนเป็นของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุล 

คุณเสียง และภรรยา นั่งอยู่อีกสักพักก็กลับ ก่อนกลับได้ถามผมว่า หนูพิมพ์พูดหรือเปล่าว่า วิญญาณของเธอจะไปไหนต่อ ผมก็ตอบว่า "อีกไม่ช้าหนูพิมพ์จะไปเกิด และทีนี้จะไปเกิดเป็นผู้ชาย เธอคุยกับผมว่าอย่างนั้น"

ใครอยากจะอ่านเรื่องนี้โดยละเอียด ก็ไปหาข้อมูลอ่านได้เองเลย มีเยอะแยะมากมาย   จากเรื่องที่เล่ามานี้ มีข้อสรุปดังนี้

1- คนตายไปแล้ว จะรู้เรื่องราวความเป็นมาของชาติต่างๆ ได้  ตอนเกิดมาเท่านั้นที่ลืมไปหมด  แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับพวกที่ระลึกชาติได้

พวกระลึกชาติได้นั้น ส่วนใหญ่ตายแล้วเกิดเร็ว

2- คนตายไปแล้ว ถ้ายังไม่ไปเกิด ส่วนใหญ่วิญญาณจะอยู่ ณ ที่ตาย  แต่ในกรณีของคนจีนที่เอาศพไปฝังในฮวงซุ้ยนั้น  เขาจะห่วงร่างกายจึงไปเฝ้าร่างกาย

คนไทยนั้น เราชอบเผา วิญญาณจึงไม่ห่วงร่างกาย

3- ผีเขาก็มีการสังสรรค์คุยกันเหมือนคนเหมือนกัน  ในเรื่องนี้ ก่อนที่ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลจะมาหา นายแพทย์อาจินต์ บุณยเกตุ นั้น ให้เพื่อนผีด้วยกัน มาหาก่อน

4- ผีไม่สามารถสร้างบุญบารมีได้เอง ต้องรอคนอุทิศให้ เมื่อรู้ว่ามีใครอุทิศให้ เขาก็จะรอที่สถานที่นั้น

สุดท้ายเลย....

ผมได้เอารูปของ ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลไปถามลุงว่าเรื่องนี้ มันจริงหรือไม่จริงอย่างไร ลุงบอกว่า “จริง”  แล้ว ด.ญ. พิมพวดี โหสกุลก็ไปเกิดแล้ว และเป็นผู้ชายจริงๆ

ผมก็อยากจะถามลุงต่อว่าไปเกิดที่ไหน อย่างไร   แต่คุณลุงนั้น ท่านไม่ค่อยพูดถึงคนเป็น ลุงตัดบทไม่ให้ถามต่อ

เรื่องก็เลยจบลงแค่นี้..

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989



8 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27 กันยายน 2558 เวลา 01:42

    พวกซอมบี้ของฝรั่งที่เป็นศพเดินได้มีจริงไหมและใช้อิทธิวิธีและเวทย์มนต์ปลุกศพเป็นซอมบี้ได้จริงไหมและชาวธรรมกายเคยเห็นซอมบี้แท้แท้ได้ไหมมาจากอะไรครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่มีหรอก.. มีเรื่องเล่าทำนองว่า พวกวูดูสามารถปลุกคนตายให้มาทำงานได้ นักเขียนก็เอามาแต่งเป็นเรื่องเป็นราว

      พอดีมันดัง ขายได้ ก็เลยเขียนกันเยอะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ29 กันยายน 2558 เวลา 01:31

      แล้วพระโมคคัลลานะอัครสาวกด้านฤทธิ์ผู้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากร่างกายศพที่แหลกเหลวเนื่องจากโจรทุบร่างกายท่านจนแหลกเหลวไปแล้วเนื่องจากพระโมคคัลลานะยังไม่ยอมเข้านิพพานจนกว่าจะเจอพระพุทธเจ้าอันนี้จริงไหมครับอธิบายอย่างไรดีและจริงไหมที่ร่างกายพระธาตุของพระพุทธเจ้าหลังจากเผาไปแล้วจะมารวมกันเป็นพระพุทธเจ้าแบบเดินไปเดินมาสอนคนได้อีกเล็กน้อยก่อนพุทธศาสนาสูญหายไปจากโลกอีกเป็นเวลาพุทธันดรนานมากครับ อธิบายอย่างไรดีครับ

      ลบ
    3. 1- เรื่องพระโมคคัลลานะนั้น ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ถ้าท่านเป็นพระอรหันต์จริงก็น่าจะทำแบบนั้นได้ ตรงนี้อย่าเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์หรือสามัญสำนึกของเราไปจับ

      2- ส่วนเรื่องพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านั้น เป็นความจริงในกรณีที่ว่า เมื่อสิ้นสุดศาสนาของพระองค์ พระพระบรมสารีริกธาตุจะมารวมกัน ตรงนี้หลวงพ่อวัดปากน้ำเคยเขียนไว้

      เราจะเรียกว่า "พระธาตุนิพพาน" แล้วก็ไปอยู่ในอายตนะนิพพาน ไม่ได้มาสอนใครอีก เพราะ หมดยุคศาสนาของพระองค์ไปแล้ว

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ6 ตุลาคม 2558 เวลา 16:59

    ได้ความรู้ดีครับ

    ตอบลบ
  3. พี่ชายเค้า รู้จักกับพ่อผมด้วยครับ

    ตอบลบ