บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

เลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้กลัวผี

วันสองวันที่ผ่านมานี้ ไปอ่านพบกระทู้หนึ่งในเว็บพันธุ์ทิพย์ กระทู้นั้นชื่อ “เลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้กลัวผี” ซึ่งเข้ากับเหตุการณ์ของชีวิตผมตอนนี้พอดี  เลยเอามาเผยแพร่กัน

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

คือลูกสาวผมวัย 9 ขวบกลัวผีขึ้นสมอง  ตกกลางคืนทีไรเขาต้องให้ผมเฝ้าตลอด ไม่ว่าจะกินข้าวอาบน้ำ ต้องนั่งเฝ้าทุกวันไป

บางทีมีกีฬา ก็ต้องพลาดช็อตเด็ดไป เบื่อมาก.ทำไงดี ให้ลูกเลิกกลัวผี

ก่อนที่จะอธิบายว่า ประเด็นนี้ เข้ากับเหตุการณ์ของชีวิตผมอย่างไร ลองไปอ่านความคิดเห็นของคนอ่านกันก่อน ว่าเป็นยังไงบ้าง

9 ขวบแล้วส่วนตัวเราว่าเปลี่ยนยากค่ะ เพราะบางทีเด็กโดยผู้ใหญ่หลอกให้กลัวตั้งแต่ 2-3 ขวบช่วงกำลังจำดีเชียว

คงได้แต่อธิบายไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีจริง พ่อก็ไม่เคยเห็น ตัวเค้าเองก็ไม่เคยเจอ พร้อมห้ามให้ดูหนังผีหรืออ่านเรื่องผีทุกประเภท

เว้นเป็นหนังผีตลกที่ไม่น่ากลัว ดูด้วยกันพร้อมคุยสบายๆ ขำๆ ว่า ผีมีแต่ในหนัง โตขึ้นอีกหน่อยน่าจะช่วยได้ค่ะ

คำตอบนี้ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ไม่รู้มาตอบทำไม....

เราโตแล้วยังกลัวมากๆ อยู่เลยค่ะ กะว่าจะเข้ามาหาวิธีในห้องนี้ดูค่ะ 555+

คำตอบนี้ ก็คงจะเป็นจริงอย่างนั้น

ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง ที่กลัวผีขนาดนี้  เพื่อนคนที่ว่านี้ มันกลัวผีอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก  ขนาดอายุเกือบจะ 20 ปีแล้ว เข้าห้องน้ำบ้านมัน  ยังให้แม่มันมายืนอยู่หน้าห้องน้ำ

ต้องคุยกันตลอดด้วย  นี่หมายถึงตอนกลางคืน  ตอนกลางวันมันไม่กลัว  ตอนนี้ อายุก็เกือบ 60 ขวบกันแล้ว  มันก็กลัวน้อยลงหน่อย 

เพื่อนกลุ่มนี้ มันชอบไปไหนมาไหนกับผม เพราะ ผมไม่กลัวผี  มันจึงทำให้พวกมันกล้าขึ้น  พวกมันบอกกับผมเอง 

ผมก็นึกในใจ  “กูไม่กลัวผีก็จริง  แต่กูก็เสียวๆ เหมือนกัน” แต่ไม่อยากบอกมัน เดี๋ยวกำลังจะเสียกำลังใจกันไปหมด

ให้ลูกพกไฟฉายครับ บอกลูก ถ้าลูกเจอผี เอาไฟส่องแยงตามันเลยลูก

คนแบบนี้ ชอบทำเป็นตลก..... ถ้าพบผีเข้าจริงๆ หรือมีใครมาหลอกให้เหมือนผีจริง  เชื่อผมเถอะ  ไฟฉายไปทางหนึ่ง คนไปทางหนึ่ง

ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรได้

ใช่ค่ะเราอายุ 25 แล้วยังกลัวผีมากๆอยู่เลย

อยากจะบอกว่า สาเหตุตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่ชอบพูดว่า อย่าอย่างงู้นอย่างนี้นะเดี๋ยวผีมาหลอก  มันเลยติดฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ

ไม่เคยเห็นของจริงเลยนะ แต่มันห้ามไม่ได้ที่จะไม่กลัวไม่หวาดระแวง

มีผลกับการใช้ชีวิตมากค่ะ เพราะทำงานในโรงพยาบาล เวลาอยู่เวรจะเข้าไปนอนห้องนอนเวรแล้วนอนไม่หลับตลอด

หรือไม่ก็หลับไม่สนิทเลย ไม่กล้าอาบน้ำในที่แปลกๆ ที่ไม่เคยอาบ ไม่กล้านอนในห้องที่ไม่เคยนอน เวลาเดินผ่านห้องเก็บศพ นี่วิ่งตลอด

ไม่กล้าไปเที่ยวคนเดียวแบบต้องค้าง ทั้งๆ ที่ชอบทำอะไรคนเดียวมาก

มันมีผลกับการใช้ชีวิตประจำวันมากค่ะ

ขอร้องค่ะ อย่าหลอกเด็กด้วยวิธีนี้เลย ถึงแม้โตแล้วเค้าจะรู้ว่ามันไม่จริง แต่ความกลัวมันฝังอยู่ในจิตใจไปแล้ว

ความคิดเห็นนี้ ไม่ได้ช่วยตอบคำถามของกระทู้แต่อย่างใด แต่เป็นคำสอนที่ดี สำหรับคนเป็นพ่อ เป็นแม่ในปัจจุบัน หรือในอนาคต

แต่ผมว่า ไม่ค่อยมีใครทำหรอก เพราะ เท่าที่อ่านมา  พ่อแม่นั่นแหละ ชอบหลอกให้ลูกกลัวผี

กลับเข้าเรื่องที่ผมว่า “เข้ากับเหตุการณ์ของชีวิตผมตอนนี้พอดี  ”

มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอความช่วยเหลือจากผม  ผู้หญิงคนนี้ แต่งงานแล้ว มีลูก 2 คน บ้านอยู่ข้างวัด

อย่าไปจินตนาการสร้างภาพแบบในหนัง “แม่นาค” หรือ “พี่มาก” แห่งทุ่งพระโขนง หรือทำนองนั้น เพราะ เป็นบ้านในเมือง  ห่างจากมหาวิทยาลัยของผม ไม่เกิน 1 กิโลเมตร

แม่กับลูก 2 คนนี้ ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่ง  คนผู้ชายเป็นพี่ อายุประมาณ 7 ขวบ น้องก็ประมาณ 5 ขวบ

แม่กับลูก 2 คนนี้ เห็นผีในบ้านกันทั้ง 3 คน  เด็กก็กลัวผี  แม่นั้น เป็นผู้ใหญ่แล้ว อาการก็ไม่เกิดขึ้นเท่าไหร่  

ตัวสามีนั้น ไม่มีเซ้นส์ในเรื่องนี้ จึงไม่เห็น และรำคาญ

ตัวคนแม่ มาเช่าพระมูลนิธิไปก่อน  แล้วก็ขอให้ไปสอนลูกเขาที่บ้าน  ผมก็ตกลงไป และบอกว่า ให้พาลูกของเพื่อนๆ มาเรียนด้วยกัน หลายๆ คน

ผมก็ไปสอนให้ที่บ้าน  สอนเสร็จก็ให้ดูเทวดาว่า มาเรียนด้วยกันมากไหม  เด็กก็บอกว่ามามาก  ต่อจากนั้น ผมก็แจกลูกแก้วคนละ 1 ดวง  และสอนให้ดูจักรพรรดิในลูกแก้ว 

เสร็จก็เดินไปสำรวจบ้าน (ผมเป็นวิทยากร ไปที่ไหนก็เป็นมงคลต่อที่นั้น ผีร้ายๆ มันก็จะหนีด้วย)  ผมเดินไปถึงชั้น 3  เด็กชอบเห็นผี อยู่ชั้นบนนี้

ผมเป็นว่ามีหิ้งพระอยู่ชั้นนี้ และมีพระพุทธรูปอยู่ด้วย   จึงสอนให้เด็กดูจักรพรรดิในพระพุทธรูปและคุยกับท่าน

ผมให้ถามท่านว่า “ยังมีผีอีกไหน” จักรพรรดิก็ตอบว่า “ไม่มี

เมื่อผมสอนเสร็จ  เด็กก็เลิกกลัวผี แม่ก็ไม่กลัวผี  ครอบครัวก็เป็นสุขขึ้น เพราะ ไม่มีเรื่องที่จะให้สามีบ่น เพราะ ความไม่เชื่อ

นี่คือ วิธีทางที่ดีที่สุดที่จะสอนเด็กไม่ให้กลัวผี....

หรือใครจะเถียง....

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น