บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

วิธีติดต่อกับคนตาย


มีคนไปตั้งกระทู้ชื่อ “วิธีติดต่อกับคนตาย(ผี)” ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์  ผมเห็นว่า เรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากเป็นประเด็นที่เข้าใจผิดกันมาก และควรจะเข้าใจให้ถูกๆ กันได้แล้ว

เนื้อหาของกระทู้เป็น ดังนี้

คือฉันอยากติดต่อกับสามีที่ตายจากไปแล้ว

ฉันคิดถึงเขามากอยากรับรู้สาระทุกข์สุขดิบของเขา ฉันอยากรู้ว่าที่ฉันทำบุญให้เขาๆ จะได้รับไม่ เป็นสุขทุกข์ประการใดหรือไม่  ไปตกระกำลำบากอยู่แห่งหนได  ทำไมฉันถึงไม่ฝันหาเขาอีกเลย

แต่ก่อนฉันจะฝันเห็นเขาทุกวัน แต่ทุกวันนี้นานๆ ครั้งๆ ฉันถึงจะฝันเห็นเขา ใจฉันแทบจะขาดเมื่อคิดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเขาอยากรับรู้ว่าเขาเป็นอย่างไง

ตอนแรกๆ ฉันเคยคิดโง่ที่จะฆ่าตัวตายตามเขาไปนะแต่พอคิดถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าฉันก็ได้สติขึ้นมา

ว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี และทำบุญไปให้สามีผู้เป็นที่รักของฉัน

ก่อนอื่นผมขอฟันธงไปก่อนเลยว่า “เจ้าของกระทู้นี้ อีกไม่นานก็มีสามีใหม่”  ความรู้ที่กล้าฟันธงไปนั้น มาจากประสบการณ์ของผมเอง ได้รับอิทธิพลมาจากแม่ของผมเอง  แม่เป็นผู้สังเกตการณ์ได้ก่อน

คนแถวๆ หมู่บ้านผม  ถ้ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายไป  ฝ่ายที่เหลืออยู่  โศกเศร้าเสียใจบ้าง  หรือดูแล้ว ไม่มีอาการโศกเศร้าเสียใจเลย  คือ ดูเฉยๆ   

พวกนี้ ไม่ค่อยแต่งงานใหม่  หรือจะแต่งก็อีกนาน

แต่ถ้าฝ่ายที่เหลือ ร้องไห้ฟูมฟาย  ผู้หญิงบางคนเป็นลมแล้ว เป็นลมอีก อยากจะฆ่าตัวตายตาม  ผู้ชายบางคน ถึงกับขี่โลงเพื่อไม่ให้เอาไปเผา

พวกนี้ แต่งงานใหม่เร็วมาก  บางคน เผาเมียไม่ถึง 7 วัน ก็มีเมียใหม่แล้ว

ผมเดาเอาว่า ผู้ตั้งกระทู้ก็คงจะเข้าข่ายนี้  

อย่างไรก็ดี  ที่ผมเดาไปนั้น เป็นความรู้ที่ได้จากการสังเกตการณ์  ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างที่ผมเดาเอาไว้ แต่ก็มีบ้างที่ไม่เป็นไปตามนั้น

กลับมาถึงเรื่อง “วิธีติดต่อกับคนตาย”  วิชาธรรมกายทำได้แน่ๆ ผมเขียนไปแล้วหลายครั้ง แต่ในบทความนี้  ดูความคิดเห็นของคนอื่นๆ ก่อน

ความคิดเห็นที่ 1

ถ้านับถือศาสนาพุทธ ศึกษาธรรมะของตถาคตเยอะๆ แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่คุณเข้าใจนั้น เรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ

เพราะได้มาจากฟังเขาเล่าบ้าง ดูหนัง ดูละครบ้าง แต่จริงๆ คือ ความตายจากกายเก่าเป็นสิ่งธรรมดา จิตเกิดดับตลอดเวลา

สามีคุณตายจากกายเก่าแล้ว จะเกิดใหม่ในทันทีไม่รอช้า แต่ไม่รู้ว่าจะไปเกิดเป็นอะไร ในสิ่งเหล่านี้ คือ

ถ้าไปทุกขคติ    นรก กำเนิดเดรัจฉาน หรือเปรตวิสัย
ถ้าไปสุขคติ    มนุษย์ เทวดา พรหม

แล้วคุณรู้ไปเขาไปเกิดเป็นอะไร ถ้าติดต่อเขาได้แล้วจะจำกันได้ไหม เพราะที่ผ่านมาแล้วไม่รู้กี่ล้านล้านล้านชาติ เขาเป็นคนเดียวกันไหม

ไม่รู้จะอธิบายยังไง ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาเองก็แล้วกัน

ความคิดเห็นนี้ “เว่อร์” เกินไป ความรู้ก็ไม่มากนัก  การตีความก็แคบตามความรู้ที่มี

ความเชื่อของผู้ตั้งกระทู้ไม่ใช่ “มิจฉาทิฐิ”   คนที่รักกันมากๆ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายไปก่อน  ฝ่ายที่เหลือก็มีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น  จะมากจะน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง

แล้วคนตายไปแล้ว  ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเกิดทันที  ส่วนใหญ่จะไปชดใช้กรรมกันก่อน จะเป็นอะไรก็ว่าไป  

คนที่ตายแล้วเกิดทันที  มีน้อยมาก

ความคิดเห็นที่ 9

ผมลองนั่งวิปัสนากรรมฐาน ดูครับ อาจจะยังติดต่อไม่ได้ แต่ก็ทำให้ผมมีสมาธิ มีสติ และนิ่งขึ้นมากคับ ( เตี่ยผมท่านเพิ่งเสียครับ ) ความต้องการของผมก็เหมือนคุณ

และผมไม่เชื่อคำพูดใคร ง่ายๆ จนกว่าจะได้สัมผัสด้วยตัวเอง

ความคิดเห็นนี้ ไม่ได้ช่วยอะไรเลยในด้านความรู้  แต่ก็ช่วยในด้านกำลังใจ

ความคิดเห็นที่ 10

สามี เจ้าของกระทู้เสียชีวิตนานหรือยัง ถ้าเสียชีวิตประมาณสามเดือน ถามร่างทรงได้ครับ แนะนำที่ลำปาง

ถ้าไม่เชื่อลองมาถามดูแล้วจะอึ้ง คนเหนือเวลามีคนตายพอครบ 100 วัน ญาติจะไปถามร่างทรงครับ ให้เรียกวิญญาณมาเข้าร่างทรง

โดยวันที่จะมาถาม ให้นำเสื้อผ้า อาหาร เครื่องประดับ และของที่ผู้เสียชีวิต ชอบและไม่ชอบให้ร่างทรงเลือกครับ

แล้วไม่ต้องบอกร่างทรงครับว่าเป็นอะไรตาย เวลาวิญญาณเข้าจะบอกเองครับว่าเขาเป็นอะไรตาย ไปอยู่กับใคร อยู่ยังไง อยากได้อะไร

เวลาที่เหมาะในการถามร่างทรงคือ ตายเกิน 3 เดือน ถ้าไม่ถึง 3 เดือนวิญญาณมาไม่ได้ครับ และตายไปหลายปีแล้วมาไม่ได้ครับ

เขาไปเกิดแล้ว ใครไม่เชื่อต้องไปดูเองครับ แล้วจะรู้ว่าวิญญาณมีอยู่จริง

ความคิดเห็นที่ 10 นี้ สงสัยว่าจะเป็นหน้าม้าให้ร่างทรง

ในด้านวิชาธรรมกาย มีข้อแนะนำ ดังนี้

1) ในการปฏิบัติธรรมตามแบบวิชาธรรมกาย เราสามารถติดต่อกับ “กายละเอียด” ใดๆ ก็ได้  ไม่ว่าจะเป็นเทวดา รูปพรหม  อรูปพรหม สัตว์นรก หรือแม้กระทั่ง พระพุทธเจ้าของเราเองก็ตาม

แต่มันไม่ทันเวลาและเหตุการณ์หรอก  

คือ พอสามีตายแล้ว จะมาปฏิบัติธรรมตามแบบวิชาธรรมกายเพื่อไปสอบถามสามีว่า ตายไปแล้วเป็นอย่างไรนั้น  ความก้าวหน้าในทางวิชาอาจจะเป็นได้ยาก

อย่างไรก็ดี  ถ้าคนทำตั้งใจแบบ ไม่เห็นดวงธรรม ก็จะไม่ลุกจากที่ ขอให้ตายไปเลย  อย่างนี้ก็สามารถฝึกได้ผลได้

คือ ถ้าใครฝึกแบบตายยอมตาย ได้ผลทุกคน  แต่ส่วนใหญ่แล้ว มันไม่เป็นอย่างนั้น พอเมื่อยขาหน่อย หรือเจ็บปวดขาหน่อย ก็พักการฝึกกันแล้ว

2) ไปร่วมพิธีถวายอาหารทะเล รับรองมีวิทยากร “ช่วยได้แน่”   สนใจก็ไปอ่านได้ที่นี่


ขออธิบายว่า ในทางวิชาธรรมกาย ถ้าเราอยากรู้ว่า “คนตายไปแล้ว อยู่ที่ไหนเป็นอย่างไร” เราก็ทำแบบนี้

เดินวิชา 18 กายไปกลับอย่างน้อย 7 เที่ยว  ยิ่งมากยิ่งดี  จนกระทั่งดวงธรรมใส กายใสดีแล้ว  เอากายธรรมพระอรหัตของเราไปอยู่ที่ตีนเขาพระสุเมรุ

ไม่ต้องถามว่า เขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน  กายธรรมพระอรหัตละเอียดของเราท่านรู้ดี แล้วก็ไม่ต้องใช้ระบบ GPS หรือแผนที่ เพราะไม่จำเป็น

เมื่อกายธรรมพระอรหัตละเอียดของเรา ไปอยู่ที่ตีนเขาพระสุเมรุ เราก็เรียกชื่อเขา  เดี๋ยวเขาก็มา จะถามอะไรก็ถามไป

3) แต่ขอบอกก่อนว่า “คนตายไปแล้ว เขาคิดไม่เหมือนเรา” กล่าวคือ เขาไม่คิดถึงเรา เหมือนที่เราคิดถึงเขา  ส่วนใหญ่แล้ว เขามักจะบอกว่า “หมดภพ หมดชาติกันแล้ว

แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่รู้จักเราเลย ไม่เป็นแบบนั้น เขายังรู้ว่าเป็นญาติ เป็นเพื่อน เป็นภรรยา เป็นสามี  แต่หน้าที่ของเขาหมดไปแล้ว

ในการทำบุญนั้น เขายินดีรับ  แต่เขาไม่คิด “พิศวาส” เราเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

พูดง่ายๆ ว่า “คนตายเขามีระบบคิดเป็นอีกแบบหนึ่ง ไม่เหมือนมนุษย์แล้ว



-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น