บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ผีแฉผัวเป็นคนฆ่า


หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ออนไลน์มีข่าว “ผีสาวผมทองสุดเฮี้ยนสิงร่างเพื่อนแฉผัวลงมือฆ่า”  โปรยหัวข่าวก็มีดังนี้

สุดเฮี้ยน วิญญาณสาวนิรนามผมทอง ที่ถูกคนร้ายฆ่าโยนศพทิ้งริมถนน เข้าสิงเพื่อนสนิทแฉกลางโรงพักว่า สามีเป็นผู้ลงมือฆ่า หลังผัวทำทีเล่นละครตบตาตำรวจว่าเป็นผู้บริสุทธ์

สุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพด้วยความผวาแรงอาฆาต เจ้าหน้าที่ล็อกตัวไปทำแผนทันที

เนื้อหาของข่าวก็เป็นดังนี้

จากกรณีตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพหญิงสาวนิรนามผมทอง หน้าตาดี สูงประมาณ 170 ซม. ถูกฆ่ารัดคอและข่มขืน ก่อนโยนทิ้งริมถนนทางเข้าหมู่บ้านวารุณี หมู่ 8 ต.คลองจิก เมื่อวานที่ผ่านมา (29 เม.ย.)

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ. ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผกก.สภ.บางปะอิน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ได้มี นายธีระพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี  ชาวบ้านใน ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาขอดูศพ

พร้อมกับยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นภรรยาของตน ชื่อ นางพี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่คืนวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา

เนื่องจากจดจำรูปร่างลักษณะและเครื่องประดับที่ติดอยู่ในตัวผู้ตายได้

จากการสอบสวน นายธีระพงษ์ ให้การอ้างว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมาหลายปี เมื่อก่อนนี้ผู้ตายทำงานอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง

ต่อมาตนได้ให้ออกมาอยู่คอยดูแลบ้าน และรับเสื้อผ้าโหลมาเย็บ และภายหลังมาจับได้ว่าผู้ตายไปแอบมีความสัมพันธ์กับนายบาส (ไม่ทราบนามสกุล)  

ซึ่งผู้ตายได้มาขอร้องว่า จะแบ่งเวลาอยู่กับตนและนายบาสคนละ 2 วัน แต่ตนไม่ยอม

ทั้งนี้ก่อนจะเสียชีวิตผู้ตายได้ขอไปเที่ยวกับ นายบาส ที่ จ.ชลบุรี โดยบอกว่าเพื่อไปตกลงว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก จึงยอมให้ผู้ตายเดินทางไป

กระทั่งผู้ตายเดินทางกลับมาช่วงกลางดึกของวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งตนได้ขับรถเก๋งออกไปรับ และได้ขอลาหยุดงาน 1 วัน เพื่อจะได้อยู่กับผู้ตาย

จนช่วงค่ำของวันที่ 28 เม.ย. ขณะที่ตนเตรียมตัวจะออกไปทำงาน ปรากฏว่าผู้ตายได้เดินออกจากบ้านไปโดยมีรถเก๋งมารับ แล้วไม่กลับมาอีก

กระทั่งมาทราบข่าวว่ามีผู้พบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆาตกรรม เลยเดินทางมาขอดูศพ ก็พบว่าใช่ภรรยาของตนเอง

นายธีระพงษ์ ให้การอีกว่า ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจมากกับการเสียชีวิตของภรรยา เพราะตนรักภรรยาคนนี้มาก แต่ทางญาติของภรรยาคิดว่าตนเป็นฆาตกร

อย่างไรก็ตาม หากตนจะลงมือฆ่า ก็คงฆ่าตั้งแต่ที่ทราบว่าภรรยาไปมีชู้แล้ว ที่ผ่านมาถึงจะเคยมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ นายนายธีระพงษ์ ถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่นั้น ปรากฏว่าหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายที่ตำรวจได้เชิญตัวมาสอบปากคำเช่นกัน

ได้เกิดอาการเป็นลมล้มพับ ก่อนจะฟื้นขึ้นร้องไห้ฟูมฟายและพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปว่า

"พี่ธีฆ่าหนูทำไม  นี่หนูเล็กเอง พี่ธีเขานอนกับหนู เขาบีบคอหนูจับหนู ขึ้นรถเอาศพหนูมาทิ้ง ขอพบพี่ธี หนูจะคุยกับพี่ธี"

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่มาติดต่อราชการ

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงพาตัว นายธีระพงษ์ ออกมาจากห้องสอบสวน เพื่อพบกับหญิงที่เป็นเพื่อนของผู้ตาย

ซึ่งหญิงคนดังกล่าวได้โผเข้ากอดและบอกว่า "หนูรักพี่ธีนะ พี่ธีทำหนูทำไม" ทำให้นายธีระพงษ์ถึงกับตกใจหน้าถอดสี พร้อมกับปฏิเสธเสียงสั่นบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายธีระพงษ์ไปสอบสวนต่อ

ซึ่งล่าสุดนายธีระพงษ์ได้ยอมเปิดปากรับภาพด้วยความกลัววิญญาณของภรรยาสาว โดยรับว่าเป็นผู้บีบคอภรรยาจนเสียชีวิต เพราะโกรธแค้นเนื่องจากจับได้ว่าแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายบาส

โดยก่อนลงมือได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตายที่บ้าน และหลังจากบีบคอผู้ตายแล้ว ก็ได้นำศพใส่เสื้อผ้ามาโยนทิ้งในที่เกิดเหตุเพื่ออำพรางคดี

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และตรวจสอบหาหลักฐานที่รถเก๋งของนายธีระพงษ์ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป.  






มีคนนำข่าวนี้ไม่เผยแพร่ให้เว็บ ก็มีคนมาให้ความคิดเห็นทำนองนี้

จากเนื้อข่าวตามกระทู้..

ขอสันนิษฐานว่า ทั้งหมดเป็นการแสดงทางจิตวิทยาของฝ่ายผู้ตายที่ร่วมกับตำรวจ  ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ

ความคิดเห็นนี้ “มโน” มากไปหน่อย  ตำรวจไทยไม่เคยใช้หลักการนี้  และถ้าทำจริง ก็ไม่รู้ว่า ตอนขึ้นศาลจะใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่

เพื่อนโยนหินถามทางมั้งคะ แบบสงสัยอยู่แล้ว เลยใช้วิธีนี้  เผอิญมันทำจริง มันก็เลยร้อนตัว ตามนั้น

ความคิดเห็นนี้ ก็เกิดจากความไม่เชื่อ  เมื่อไม่เชื่อก็เดา ก็สันนิษฐานไปหมด

ประเด็นของข่าวนี้  ในทางวิชาธรรมกายของอธิบายดังนี้

1) การที่ผีมาเข้าสิงเพื่อนตามข่าวนั้น เป็นไปได้ 

หลักการก็เป็นแบบนี้  ไม่ว่าผีหรือคนก็จะมีดวงธรรมของตนเอง  อยู่ที่ฐานที่ 7 เหนือระดับสะดือ 2 นิ้วมือของใครของมัน 

ผีนั้น กายเนื้อไม่มีแล้ว  คือ มีอยู่แต่ทุกสิ่งทุกอย่างถ่ายโอนมาอยู่ที่กายฝันหรือกายมนุษย์ละเอียดแล้ว  กายมนุษย์ละเอียดก็มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ละเอียดอยู่ที่ฐานที่ 7

2) การที่ผีถูกบีบคอตาย  และตามสามีมา ก็เป็นไปไม่ได้  เพราะ ยังคงสงสัย โกรธแค้น หรือน้อยใจอยู่

3) เมื่อผีมาเห็นเพื่อน  วิธีการสิงก็คือ เอาใจของผีนั้น เข้าจมูกซ้ายเพื่อน เข้าไปที่หัวตา เข้าไปฐานที่ 3 กลางกระหม่อม  แล้วไปที่ฐานที่ 7

ต่อจากนั้น ก็เอาดวงธรรมของกายมนุษย์ละเอียดของผี ซ้อนกันเข้ากับดวงธรรมกายของกายมนุษย์หยาบของเพื่อน

เมื่อดวงธรรมซ้อนกันสนิท ใจ-จิต-วิญญาณก็เป็นของผี เข้าควบคุมทั้งหมด  จะทำอะไรก็เป็นไปตามความต้องการของผี

4) บางคนอาจจะสงสัยว่า ผีรู้วิธีการต่างๆ ที่ผมอธิบายไปได้อย่างไร

ตรงนี้ขออธิบายว่า คนเราจะเกิด จะตาย จะหลับ จะเป็นสมาธิ  ใจต้องเดินแบบนั้นอยู่แล้ว  คือ เข้าไปตามฐาน (ตอนเกิด)  ออกไปตามฐาน (ตอนตาย) อยู่แล้ว

ดังนั้น ในบางกรณีเช่นกรณีนี้  ผีจึงเข้าสิงเพื่อนได้ 

แต่ข้อย้ำว่า  ไม่ใช่ว่า ผีทุกตนจะทำอย่างนี้ได้ทั้งหมด  มันต้องมีเหตุ มีปัจจัย เป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน 

ไม่อย่างนั้น ตำรวจไม่ต้องทำอะไรแล้ว   เรียกผีมาสัมภาษณ์อย่างเดียวก็พอ


ปล.  ประเด็นจากข่าวนี้ เนื่องจากไม่ได้ไปสัมผัสโดยตรง  ดังนั้น  อาจจะเป็นการแสดงละครของเพื่อนผีคนเดียวก็ได้

เป็นเพื่อนกัน คนตายคงเล่าอะไรให้ฟังมากพอสมควร 

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น