บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สื่อสารกับวิญญาณ

วันนี้ไปอ่านพบกระทู้หนึ่ง  ผมรู้สึกสงสารเจ้าของกระทู้มากพอสมควร เลยเอามาเผยแพร่กัน เผื่อว่าความรู้นี้ จะผ่านไปถึงเจ้าของกระทู้บ้าง

เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิง ตั้งชื่อกระทู้ว่า “ใครสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้บ้างค่ะ” เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

ใครสามารถสื่อสารกับคนที่ตายแล้ว โดยใช้ชื่อ วันเกิด วันตายอะไรประมานนี้อะค่ะ ช่วยหน่อยค่ะ

คืออยากรู้จริงๆ ว่า ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง

ที่ว่า ผมรู้สงสารเจ้าของกระทู้ก็เป็นเพราะว่า เจ้าของกระทู้นั้น “อยากรู้จริงๆ” ว่าจะติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วอย่างไร

แต่คำตอบของคนในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วหลายครั้ง  ส่วนใหญ่รู้ไม่จริง แต่อยากแสดงกิเลส โดยการสำเร็จความใคร่ทางแป้นพิมพ์

ส่วนหนึ่งก็เป็นมือใหม่ เพิ่งเข้ามาหัดเล่น  จำนวนมากเลย ที่สิงสู่มานานแล้ว พวกนั้นก็สมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น

ไม่มีใครรู้จริงในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์

การไปหาความรู้ ณ ที่นั้น มันจึงน่าสงสารจริงๆ

เรามาดูคำแนะนำของพวกสมองหมา ปัญญาควายกันก่อนว่า จะมีคำแนะนำอะไรกันบ้าง

น่าจะปล่อยวางมากกว่านะครับ ก็ทำบุญอุทิศให้ตามวาระโอกาสดีกว่า ที่ทำได้เห็นมี แบงค์สเกตส์กรรมนะครับ

เจ้าขอกระทู้ถามกลับไปว่า

ใครคิอแบงสกิดกรรมอะค่ะ จะติดต่อได้ไง

คนตอบนั้น ก็เงียบไป ไม่เข้าไปให้ความรู้เพิ่มเติมอีก

ลองจุดธูป แล้วนั่งสมาธิดูครับ

คำแนะนำนี้ สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ  มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ตามความคิดเห็นของผม มึงนั่งอ่านเฉยๆ จะดีกว่านี้เยอะเลย

เราอยากจะสื่อสารกับเค้า แล้วเค้าอยากจะสื่อสารกับเราหรือเปล่าครับ

คนที่จากไปแล้ว เค้าอยากจะกลับมาหรือเปล่าละครับ

คนที่ตายไปแล้ว เค้าก็พ้นทุกข์บนโลกไปแล้วอะครับ จะให้เค้ามาแบกทุกข์ไปอีกทำไมละครับ

วิญญาณเป็นเพียงเงาของสิ่งที่ปรากฏในความทรงจำ เหมือนกับคลื่นที่ซัดสาดทะเลแล้วจางหายไป

คุณจะตามหาอะไรกับคลื่นที่จางหายไป

สิ่งที่คุณหาก็คือความทรงจำ ที่มันไม่มีทางย้อนกลับมาได้อีกต่างหากละครับ

คำตอบนี้ก็เหมือนกัน  มึงไม่รู้อะไร มึงก็เงียบๆ เสียดีกว่า

เสือกไปสอนเจ้าของกระทู้เสียอีก  คนเขามีทุกข์แบบหนึ่ง คือ “อยากรู้”  ถ้าช่วยไม่ได้ หรือไม่มีความรู้ ก็อ่านผ่านๆ เสียจะดีกว่า

วิญญาณขันธ์ วิญญาณ (ความรู้แจ้งในอารมณ์) เป็นผลหรือการตอบสนองซึ่งมีอินทรีย์ ๖ อย่างใดอย่างหนึ่ง (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) เป็นปทัฏฐาน และมีประสบการณ์ภายนอกที่สัมพันธ์กัน ๖ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง (รูปที่เห็น เสียง กลิ่น รส สิ่งที่สัมผัสได้และธัมมารมณ์ กล่าวคือความนึกคิด) เป็นวัตถุเครื่องรองรับ (เป็นอารมณ์)

ตัวอย่างเช่น จักขุวิญญาณมีตาเป็นฐานและมีรูปเป็นวัตถุรองรับ มโนวิญญาณมีใจ (มนัส) เป็นฐาน มีธัมมารมณ์เป็นวัตถุเครื่องรองรับ (อารมณ์) ดังนั้น วิญญาณจึงเกี่ยวข้องกับอินทรีย์ (หรืออายตนะ) อื่น ๆ ด้วยประการฉะนี้ วิญญาณก็เหมือนกับเวทนา สัญญาและสังขารคือ มี ๖ ประการ ซึ่งสัมพันธ์ระหว่างอายตนะภายใน ๖ กับอายตนะภายนอก ๖

ควรที่จะเข้าใจให้ชัดว่า วิญญาณไม่ได้จำวัตถุ (อารมณ์) วิญญาณเป็นเพียงความรู้ชัดชนิดหนึ่ง คือรู้ชัดความมีอยู่ของอารมณ์ เมื่อตากระทบกับสี เช่น สีน้ำเงิน จักษุวิญญาณเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเพียงการรู้ชัดความมีอยู่ของสี แต่วิญญาณไม่ได้จำว่า มันเป็นสีน้ำเงิน ไม่มีการจำได้ในขั้นนี้ ตัวสัญญา (ขันธ์ที่ ๓) ต่างหากซึ่งจำได้ว่า มันเป็นสีน้ำเงิน คำว่า “จักษุวิญญาณ” เป็นการแสดงออกทางทัศนะที่กำหนดความคิดอันเดียวกัน ดังที่เราทราบตามภาษาธรรมดาว่า “การเห็น” การเห็นโดยได้หมายความว่า การจำได้ ดังนั้นจึงมีชนิดของวิญญาณแบบอื่น ๆ อีก

ต้องย้ำไว้ตรงนี้ (สักนิด) ว่า ตามทัศนะทางพุทธศาสนา ไม่มีสิ่งที่เที่ยงแท้ วิญญาณไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเรียกว่า Self, Soul หรือ Ego ซึ่งตรงข้ามกับรูปวัตถุ จุดนี้ควรจะย้ำเป็นพิเศษ เพราะพระบรมศาสดาทรงค้านว่า “ดูกรโมฆบุรุษ เธอได้ฟังเราประกาศธรรมทำนองนี้แก่ใคร? เรา (ตถาคต) ได้อธิบายด้วยนัยเป็นเอนกมิใช่หรือ วิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย (และว่า) การเกิดขึ้นของวิญญาณที่ปราศจากปัจจัยไม่มีเลย”

จากนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงดำเนินการอธิบายวิญญาณในรายละเอียดว่า “วิญญาณมีชื่อตามปัจจัยที่มันอาศัยเกิดขึ้นกล่าวคือ อาศัยตาและรูปวิญญาณเกิดขึ้น และวิญญาณก็มีชื่อว่า “จักขุวิญญาณ” อาศัยหูกับเสียง วิญญาณเกิดขึ้น วิญญาณนี้มีชื่อว่า “โสตวิญญาณ” อาศัยจมูกและกลิ่น วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “ฆานวิญญษณ” อาศัยลิ้นกับสร วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “ชิวหาวิญญาณ อาศัยร่างกายและโผทัฏฐัพพารมณ์ วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “กายวิญญาณ อาศัยใจและธัมมารมณ์ วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “มโนวิญญาณ”

จากหนังสือ “พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร”

คนนี้ ไปลอกหนังสือมาตอบเลย ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าของกระทู้เลย  ผมถึงว่า พวกนี้ส่วนใหญ่สมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น

เขาอยากจะรู้ว่า ดวงวิญญาณ-ใจ-จิตของคนตาย ที่อาจจะเป็นแฟนที่รักมากไปไหน  มึงไปพูดถึง เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ มันเป็นคนละเรื่อง  สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ

ถ้าเจ้าของกระทู้ได้มาอ่านบทความนี้  ผมก็จะตอบดังนี้

ในการติดต่อกับคนตายนั้น วิชาธรรมกายทำได้ง่ายมาก  อยากทำเองก็ฝึกเอง ถ้ามีบุญบารมีเก่ามาก่อน  วันสองวันก็อาจจะติดต่อกับคนตายได้เลย

พูดง่ายๆ ว่า ฝึกผ่านวิชา 18 กายแล้ว เราก็สามารถติดต่อกับคนตายได้แล้ว

ถ้าฝึกเอง ยังทำไม่ได้  เราก็ถามวิทยากรที่เก่งๆ  วิทยากรที่เก่งๆ นั้น สามารถเป็น “ล่าม” ให้ได้

นอกจากจะติดต่อกับคนตายได้แล้ว เรายังสามารถช่วยคนตายได้อีก ไม่ใช่แค่ติดต่อเท่านั้น ลองไปอ่านบล็อกนี้ดู  http://thawaiahan.blogspot.com/

จะเห็นได้ว่า วิชาธรรมกายสามารถช่วยคนได้มาก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร เราสามารถหาคำตอบให้ท่านได้

แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าถึงวิชาธรรมกายได้  การไปหาความรู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ จึงเป็นการหาความรู้ที่ผิดที่ 

ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้..


อ่านแล้ว บางทีนึกอยากจะไปกระทืบยอดอกได้พวกที่ตอบมาทั้งหลาย แต่จนใจที่ว่า "ไม่รู้ว่ามันเป็นใครอยู่ที่ไหน" 


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น