วันนี้ไปอ่านพบกระทู้หนึ่ง ผมรู้สึกสงสารเจ้าของกระทู้มากพอสมควร
เลยเอามาเผยแพร่กัน เผื่อว่าความรู้นี้ จะผ่านไปถึงเจ้าของกระทู้บ้าง
เจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิง ตั้งชื่อกระทู้ว่า “ใครสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้บ้างค่ะ”
เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้
ใครสามารถสื่อสารกับคนที่ตายแล้ว
โดยใช้ชื่อ วันเกิด วันตายอะไรประมานนี้อะค่ะ ช่วยหน่อยค่ะ
คืออยากรู้จริงๆ
ว่า ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
|
ที่ว่า
ผมรู้สงสารเจ้าของกระทู้ก็เป็นเพราะว่า เจ้าของกระทู้นั้น “อยากรู้จริงๆ”
ว่าจะติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วอย่างไร
แต่คำตอบของคนในห้องศาสนา
พันธุ์ทิพย์ ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วหลายครั้ง
ส่วนใหญ่รู้ไม่จริง แต่อยากแสดงกิเลส โดยการสำเร็จความใคร่ทางแป้นพิมพ์
ส่วนหนึ่งก็เป็นมือใหม่
เพิ่งเข้ามาหัดเล่น จำนวนมากเลย
ที่สิงสู่มานานแล้ว พวกนั้นก็สมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น
ไม่มีใครรู้จริงในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์
การไปหาความรู้ ณ ที่นั้น มันจึงน่าสงสารจริงๆ
เรามาดูคำแนะนำของพวกสมองหมา ปัญญาควายกันก่อนว่า
จะมีคำแนะนำอะไรกันบ้าง
น่าจะปล่อยวางมากกว่านะครับ
ก็ทำบุญอุทิศให้ตามวาระโอกาสดีกว่า ที่ทำได้เห็นมี
แบงค์สเกตส์กรรมนะครับ
|
เจ้าขอกระทู้ถามกลับไปว่า
ใครคิอแบงสกิดกรรมอะค่ะ
จะติดต่อได้ไง
|
คนตอบนั้น ก็เงียบไป ไม่เข้าไปให้ความรู้เพิ่มเติมอีก
ลองจุดธูป
แล้วนั่งสมาธิดูครับ
|
คำแนะนำนี้ สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ
มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตามความคิดเห็นของผม
มึงนั่งอ่านเฉยๆ จะดีกว่านี้เยอะเลย
เราอยากจะสื่อสารกับเค้า
แล้วเค้าอยากจะสื่อสารกับเราหรือเปล่าครับ
คนที่จากไปแล้ว
เค้าอยากจะกลับมาหรือเปล่าละครับ
คนที่ตายไปแล้ว
เค้าก็พ้นทุกข์บนโลกไปแล้วอะครับ จะให้เค้ามาแบกทุกข์ไปอีกทำไมละครับ
วิญญาณเป็นเพียงเงาของสิ่งที่ปรากฏในความทรงจำ
เหมือนกับคลื่นที่ซัดสาดทะเลแล้วจางหายไป
คุณจะตามหาอะไรกับคลื่นที่จางหายไป
สิ่งที่คุณหาก็คือความทรงจำ
ที่มันไม่มีทางย้อนกลับมาได้อีกต่างหากละครับ
|
คำตอบนี้ก็เหมือนกัน
มึงไม่รู้อะไร มึงก็เงียบๆ เสียดีกว่า
เสือกไปสอนเจ้าของกระทู้เสียอีก
คนเขามีทุกข์แบบหนึ่ง คือ “อยากรู้” ถ้าช่วยไม่ได้
หรือไม่มีความรู้ ก็อ่านผ่านๆ เสียจะดีกว่า
วิญญาณขันธ์
วิญญาณ (ความรู้แจ้งในอารมณ์) เป็นผลหรือการตอบสนองซึ่งมีอินทรีย์ ๖
อย่างใดอย่างหนึ่ง (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) เป็นปทัฏฐาน
และมีประสบการณ์ภายนอกที่สัมพันธ์กัน ๖ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง (รูปที่เห็น
เสียง กลิ่น รส สิ่งที่สัมผัสได้และธัมมารมณ์ กล่าวคือความนึกคิด)
เป็นวัตถุเครื่องรองรับ (เป็นอารมณ์)
ตัวอย่างเช่น
จักขุวิญญาณมีตาเป็นฐานและมีรูปเป็นวัตถุรองรับ มโนวิญญาณมีใจ (มนัส) เป็นฐาน
มีธัมมารมณ์เป็นวัตถุเครื่องรองรับ (อารมณ์) ดังนั้น
วิญญาณจึงเกี่ยวข้องกับอินทรีย์ (หรืออายตนะ) อื่น ๆ ด้วยประการฉะนี้
วิญญาณก็เหมือนกับเวทนา สัญญาและสังขารคือ มี ๖ ประการ
ซึ่งสัมพันธ์ระหว่างอายตนะภายใน ๖ กับอายตนะภายนอก ๖
ควรที่จะเข้าใจให้ชัดว่า
วิญญาณไม่ได้จำวัตถุ (อารมณ์) วิญญาณเป็นเพียงความรู้ชัดชนิดหนึ่ง
คือรู้ชัดความมีอยู่ของอารมณ์ เมื่อตากระทบกับสี เช่น สีน้ำเงิน
จักษุวิญญาณเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเพียงการรู้ชัดความมีอยู่ของสี
แต่วิญญาณไม่ได้จำว่า มันเป็นสีน้ำเงิน ไม่มีการจำได้ในขั้นนี้ ตัวสัญญา
(ขันธ์ที่ ๓) ต่างหากซึ่งจำได้ว่า มันเป็นสีน้ำเงิน คำว่า “จักษุวิญญาณ”
เป็นการแสดงออกทางทัศนะที่กำหนดความคิดอันเดียวกัน
ดังที่เราทราบตามภาษาธรรมดาว่า “การเห็น” การเห็นโดยได้หมายความว่า การจำได้
ดังนั้นจึงมีชนิดของวิญญาณแบบอื่น ๆ อีก
ต้องย้ำไว้ตรงนี้
(สักนิด) ว่า ตามทัศนะทางพุทธศาสนา ไม่มีสิ่งที่เที่ยงแท้ วิญญาณไม่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งเรียกว่า Self, Soul หรือ Ego ซึ่งตรงข้ามกับรูปวัตถุ จุดนี้ควรจะย้ำเป็นพิเศษ
เพราะพระบรมศาสดาทรงค้านว่า “ดูกรโมฆบุรุษ เธอได้ฟังเราประกาศธรรมทำนองนี้แก่ใคร? เรา (ตถาคต) ได้อธิบายด้วยนัยเป็นเอนกมิใช่หรือ
วิญญาณเกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย (และว่า)
การเกิดขึ้นของวิญญาณที่ปราศจากปัจจัยไม่มีเลย”
จากนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงดำเนินการอธิบายวิญญาณในรายละเอียดว่า
“วิญญาณมีชื่อตามปัจจัยที่มันอาศัยเกิดขึ้นกล่าวคือ อาศัยตาและรูปวิญญาณเกิดขึ้น
และวิญญาณก็มีชื่อว่า “จักขุวิญญาณ” อาศัยหูกับเสียง วิญญาณเกิดขึ้น
วิญญาณนี้มีชื่อว่า “โสตวิญญาณ” อาศัยจมูกและกลิ่น วิญญาณเกิดขึ้น
เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “ฆานวิญญษณ” อาศัยลิ้นกับสร วิญญาณเกิดขึ้น
เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “ชิวหาวิญญาณ อาศัยร่างกายและโผทัฏฐัพพารมณ์
วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “กายวิญญาณ อาศัยใจและธัมมารมณ์
วิญญาณเกิดขึ้น เราเรียกวิญญาณนี้ว่า “มโนวิญญาณ”
จากหนังสือ
“พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร”
|
คนนี้ ไปลอกหนังสือมาตอบเลย ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าของกระทู้เลย ผมถึงว่า พวกนี้ส่วนใหญ่สมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น
เขาอยากจะรู้ว่า ดวงวิญญาณ-ใจ-จิตของคนตาย
ที่อาจจะเป็นแฟนที่รักมากไปไหน
มึงไปพูดถึง เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ มันเป็นคนละเรื่อง สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ
ถ้าเจ้าของกระทู้ได้มาอ่านบทความนี้
ผมก็จะตอบดังนี้
ในการติดต่อกับคนตายนั้น วิชาธรรมกายทำได้ง่ายมาก อยากทำเองก็ฝึกเอง
ถ้ามีบุญบารมีเก่ามาก่อน
วันสองวันก็อาจจะติดต่อกับคนตายได้เลย
พูดง่ายๆ ว่า ฝึกผ่านวิชา 18 กายแล้ว
เราก็สามารถติดต่อกับคนตายได้แล้ว
ถ้าฝึกเอง ยังทำไม่ได้ เราก็ถามวิทยากรที่เก่งๆ วิทยากรที่เก่งๆ นั้น สามารถเป็น “ล่าม” ให้ได้
นอกจากจะติดต่อกับคนตายได้แล้ว เรายังสามารถช่วยคนตายได้อีก
ไม่ใช่แค่ติดต่อเท่านั้น ลองไปอ่านบล็อกนี้ดู http://thawaiahan.blogspot.com/
จะเห็นได้ว่า วิชาธรรมกายสามารถช่วยคนได้มาก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร
เราสามารถหาคำตอบให้ท่านได้
แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าถึงวิชาธรรมกายได้ การไปหาความรู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์
จึงเป็นการหาความรู้ที่ผิดที่
ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้..
อ่านแล้ว บางทีนึกอยากจะไปกระทืบยอดอกได้พวกที่ตอบมาทั้งหลาย
แต่จนใจที่ว่า "ไม่รู้ว่ามันเป็นใครอยู่ที่ไหน"
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น